วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Practice English by The vampire diaries season 1




            Practice English by The vampire diaries season 1



                ดิฉันคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนหรือหนังสือตำราเรียนเท่านั้น แต่เรายังสามารถที่จะศึกษาค้นคว้าและศึกษาเรียนรู้ได้จากทุกสิ่งทุกอย่างจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านหรือภายในห้องเรียน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ในการศึกษาและเรียนรู้คำศัพท์เบื้องต้น จากนั้นเราจึงค่อยพัฒนามาเรียบเรียงคำศัพท์เหล่านั้นให้เป็นประโยคและฝึกพูดหรือใช้ในการติดต่อสื่อสารในสถานการณ์จริง โดยแนวทางที่จะช่วยทำให้เราได้ใช้และอยู่กับภาษาอังกฤษได้ทุกวันหรือตลอดเวลาก็คือ การฝึกภาษาอังกฤษจากสื่อเทคโนโลยีสารสรเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟน ไอโฟน หรือแท็บแล็ต โดยเราจะฝึกทักษะการฟังผ่านเพลงสากลหรือดูหนังผ่านสื่อดังกล่าว โดยเฉพาะการฟังเพลงสากลและการดูหนังฝรั่งจะช่วยเราในการฝึกภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายราคาแพงให้กับกวดวิชาหรือสถาบันสอนภาษาดังๆ  ซึ่งเราสามารถเริ่มทำได้จากที่บ้าน เราจะฝึกตอนไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรที่จะรู้วิธีการจัดสรรเวลาให้ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองด้วย เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนและสุขภาพของเรานั่นเอง


                     วิธีการฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ดิฉันอยากจะแนะนำและเป็นประโยชน์สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้จริงก็คือ การดูหนังซีรีย์ฝรั่ง เพราะในยุคปัจจุบันนี้เราสามารถสืบค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นห้องสมุดที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารไว้มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้ยังสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลอีกด้วย แต่เมื่อได้ข้อมูลแล้ว เราจะต้องรู้จักวิเคราะห์และกลั่นกรองข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเลือกใช้ข้อมูลดังกล่าว ดิฉันคิดว่าหากเราต้องการจะฝึกฟังบทสนทนาที่มีการโต้ตอบกัน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างที่ดิฉันได้เกริ่นไป ดิฉันเลือกเรื่องของการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากซีรีย์ฝรั่ง เพราะนอกจากที่เราได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ เรายังได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นคำทักทายที่ทันสมัยมากขึ้น เพราะคำทักทายเหล่านั้น มักจะเป็นคำที่เขาใช้สื่อสารกันจริงๆมากกว่าคำทักทายที่เราเรียนกันตามบทเรียนในหนังสือ นอกจากนี้การฝึกฟังยังทำให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษาและท่วงทำนองของการออกเสียงสูงต่ำไปในตัวอีกด้วย เมื่อฝึกฝนบ่อยๆเราก็จะเกิดความชำนาญและสามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น
                    ในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ดิฉันชอบฝึกโดยการดูซีรีย์ฝรั่ง เพราะดิฉันคิดว่าซีรีย์ฝรั่งจะทำให้เราอยากติดตาม อยากค้นหาคำตอบอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมตัวละครตัวนี้ถึงทำแบบนี้ ทำไมเหตุการณ์จึงเป็นแบบนี้ และอีกคำถามอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำให้ดิฉันรู้สึกตื่นเต้น คอยลุ้นระทึกกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็มีจุดไคลแม็กซ์ซึ่งถือว่าเป็นจุดคลายปมปัญหาต่างๆ โดยซีรีย์ฝรั่งจะแตกต่างจากละครไทยอย่างเราอย่างเห็นได้ชัด เพราะซีรีย์ฝรั่งจะมีปมปัญหาที่ทำให้คนดูนั่นคาดเดาเหตุการณืล่วงหน้าได้ยากมาก บางครั้งก็ทำให้ดิฉันคาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างนั้น ทำให้ดิฉันรู้สึกประหลาดใจว่าผู้แต่งคิดได้อย่างไร ซึ่งทำให้ดิฉันรู้สึกประทับใจในซีรีย์ฝรั่งเป็นอย่างมาก











โดยดิฉันจะดูซีรีย์ที่มีซับไตเติลเป็นซับไตเติลไทยประกอบด้วย เพื่อทำให้เข้าใจในซีรีย์ ซึ่งซีรีย์ที่ดิฉันเลือกดูก็คือ The vampire diaries ซึ่งตอนที่ดิฉันเลือกดูก็จะเป็นภาคแรกของซีรีย์เลย โดยซีรีย์เรื่องนี้ก็จะเกี่ยวกับแวมไพร์ตามชื่อเรื่องนั่นเอง ซึ่งเรื่องราวจะชวนติดตามเป็นอย่างโดยเนื้อเรื่องก็จะมีอยู่ว่าสองแวมไพร์หนุ่มพี่น้องตระกูลซัลวาทอร์ คนพี่ก็คือ เดม่อน คนน้องก็คือ สเตฟาน หลังจากที่พวกเขาทั้งสองได้กลายเป็นแวมไพร์มา145ปีและได้ออกเดินทางไปหลายประเทศ และสเตฟานห็ได้กลับมายังเมืองมิสติคฟอลส์อีกครั้ง ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ในเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตระกูลเขาและเป็นสถานที่เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด เขาต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบมนุษย์ทั่วไป เขาจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนที่ไฮสคูลแห่งหนึ่งและได้เจอกับเอลิน่า กิลเบิร์ต ซึ่งเป็นนางเอก เธอได้สูญเสียพ่อและแม่โดยอุบัติเหตุรถคว่ำลงแม่น้ำในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เธอมีน้องชายชื่อ เจอร์เรมี่และมีเพื่อนสนิทสองคนคือ แคร์โรไลน์ และ บอนนี่ ซึ่งบอนนี่เป็นแม่มดที่สามารถใช้เวทมนต์ต่างๆจากยายของเธอและมีประสาทสัมผัส เอลีน่าและสเตฟานต่างก็ตกหลุมรักกัน ทั้งคู่รักกันอย่างมีความสุขแต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อเดม่อนได้กลับมายังเมืองมิสติคฟอลส์ เพื่อตามมารังควาญสเตฟานและสร้างความวุ่นวายให้กับเมืองนี้ ต่อมาเอลีน่าก็ได้รู้ความจริงว่า สเตฟานและเดม่อนคือแวมไพร์หนุ่มที่มีอายุ145ปี 

ในขณะนั้นเดม่อนได้กัดวัยรุ่นที่กำลังเสพสารเสพติดและเขาก็ได้เปลี่ยนวิคกี้ให้เป็นแวมไพร์ ซึ่งเป็นน้องสาวของแมต เพื่อนร่วมชั้นที่เคยคบหากับเอลีน่าและวิคกี้ก็เป็นคนเจอร์เรมี่ชอบ ดังนั้นสเตฟานและเดม่อนจึงกลายเป็นพี่เลี้ยงให้กับวิคกี้ที่เป็นแวมไพร์มือใหม่ สเตฟานบอกความจริงทั้งหมดแก่เอลีน่า ไม่ว่าจะเป็นจุดกำเนิดของการเป็นแวมไพร์ของเขา ซึ่งผู้ที่ทำให้เขากลายเป็นแวมไพร์ก็คือ แคทเธอรีน ผู้ที่มีหน้าตาเหมือนกับเอลีน่าดั่งกับฝาแฝด และในคืนงานปาร์ตี้วันฮาโลวีน ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนจะต้องแต่งตัวเป็นผี วิคกี้ก็ได้หนีสเตฟานเพื่อมาหาเจอร์เรมี่ เธอรู้สึกกระหายเลือดแต่เอลีน่าก็เข้ามาได้จังหวะพอดี เธอจึงทำร้ายเอลีน่า สเตฟานจึงเอาไม้มาแทงที่หัวใจของเธอ ทำให้เธอตายต่อหน้าต่อตาเจอร์เรมี่ เอลีน่าจึงขอร้องให้เดม่อนสะกดจิตให้เจอร์เรมี่ลืมเหตุการณ์ในวันนี้ แต่กลับเป็นเรื่องซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้น เมื่อสภาผู้ก่อตั้งเมืองรู้ว่ามีแวมไพร์เข้ามาในเมืองและพวกเขาต้องการจะกำจัดแวมไพร์ทิ้ง และตอนนี้บอนนี่ก็พยายามจะพิสูจน์ตัวเองว่าเธอเป็นแม่มดจริงหรือไม่ เธอจึงลองท่องคาถาต่างๆ และเธอก็ได้ใช้คาถาต่างๆในการช่วยเหลือ เอลีน่า สเตฟาน เดม่อนและคนอื่นๆในเมืองมิสติคฟอลส์ ซึ่งเรื่องราวต่างๆก็เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการกลับมาของแวมไพร์ดั้งเดิมอีกด้วย

                  และผลที่ดิฉันได้รับจากการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากซีรีย์เรื่องนี้ ก็คือ ช่วยทำให้ดิฉันรู้คำทักทายที่ทันสมัยมากขึ้น เพราะคำทักทายเหล่านั้น มักจะเป็นคำที่เขาใช้สื่อสารกันจริงๆซึ่งเป็นคำที่ทันสมัยมากกว่าคำทักทายที่เราเรียนกันตามบทเรียนในหนังสือ นอกจากนี้การฝึกฟังยังทำให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษาและท่วงทำนองของการออกเสียงสูงต่ำไปในตัวอีกด้วย เมื่อฝึกฝนบ่อยๆเราก็จะเกิดความชำนาญและสามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งวัฒนธรรมวันสำคัญต่างๆที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในการทำความรู้จักหรือทำความเข้าใจภาษาได้อย่างลึกซึ้ง เพราะหากเรามีพื้นฐานในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาก็จะเป็นผลดีในการฝึกทักษะทางด้านภาษา แต่หากเราไม่มีความรู้อะไรเลยก็จะเป็นเรื่องยากในศึกษาภาษา ดังนั้นฝึกทักษะด้านภาษาให้ได้ผลจะต้องมีความรู้พื้นฐานและหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเท่านี้เราก็จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านภาษาและมีความสุขในการเรียนอีกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น