Practice English by The vampire diaries season 1
ดิฉันคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนหรือหนังสือตำราเรียนเท่านั้น
แต่เรายังสามารถที่จะศึกษาค้นคว้าและศึกษาเรียนรู้ได้จากทุกสิ่งทุกอย่างจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราได้ด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านหรือภายในห้องเรียน
ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ในการศึกษาและเรียนรู้คำศัพท์เบื้องต้น
จากนั้นเราจึงค่อยพัฒนามาเรียบเรียงคำศัพท์เหล่านั้นให้เป็นประโยคและฝึกพูดหรือใช้ในการติดต่อสื่อสารในสถานการณ์จริง
โดยแนวทางที่จะช่วยทำให้เราได้ใช้และอยู่กับภาษาอังกฤษได้ทุกวันหรือตลอดเวลาก็คือ
การฝึกภาษาอังกฤษจากสื่อเทคโนโลยีสารสรเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต
สมาร์ทโฟน ไอโฟน หรือแท็บแล็ต
โดยเราจะฝึกทักษะการฟังผ่านเพลงสากลหรือดูหนังผ่านสื่อดังกล่าว
โดยเฉพาะการฟังเพลงสากลและการดูหนังฝรั่งจะช่วยเราในการฝึกภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายราคาแพงให้กับกวดวิชาหรือสถาบันสอนภาษาดังๆ ซึ่งเราสามารถเริ่มทำได้จากที่บ้าน
เราจะฝึกตอนไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรที่จะรู้วิธีการจัดสรรเวลาให้ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองด้วย
เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนและสุขภาพของเรานั่นเอง
วิธีการฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ดิฉันอยากจะแนะนำและเป็นประโยชน์สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้จริงก็คือ
การดูหนังซีรีย์ฝรั่ง เพราะในยุคปัจจุบันนี้เราสามารถสืบค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ
ซึ่งถือได้ว่าเป็นห้องสมุดที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารไว้มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
และนอกจากนี้ยังสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลอีกด้วย แต่เมื่อได้ข้อมูลแล้ว
เราจะต้องรู้จักวิเคราะห์และกลั่นกรองข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเลือกใช้ข้อมูลดังกล่าว
ดิฉันคิดว่าหากเราต้องการจะฝึกฟังบทสนทนาที่มีการโต้ตอบกัน
ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างที่ดิฉันได้เกริ่นไป
ดิฉันเลือกเรื่องของการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากซีรีย์ฝรั่ง
เพราะนอกจากที่เราได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ เรายังได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น
อาจจะเป็นคำทักทายที่ทันสมัยมากขึ้น เพราะคำทักทายเหล่านั้น
มักจะเป็นคำที่เขาใช้สื่อสารกันจริงๆมากกว่าคำทักทายที่เราเรียนกันตามบทเรียนในหนังสือ
นอกจากนี้การฝึกฟังยังทำให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษาและท่วงทำนองของการออกเสียงสูงต่ำไปในตัวอีกด้วย
เมื่อฝึกฝนบ่อยๆเราก็จะเกิดความชำนาญและสามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น
ในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ดิฉันชอบฝึกโดยการดูซีรีย์ฝรั่ง เพราะดิฉันคิดว่าซีรีย์ฝรั่งจะทำให้เราอยากติดตาม
อยากค้นหาคำตอบอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมตัวละครตัวนี้ถึงทำแบบนี้
ทำไมเหตุการณ์จึงเป็นแบบนี้ และอีกคำถามอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งทำให้ดิฉันรู้สึกตื่นเต้น คอยลุ้นระทึกกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆอยู่ตลอดเวลา
บางครั้งก็มีจุดไคลแม็กซ์ซึ่งถือว่าเป็นจุดคลายปมปัญหาต่างๆ
โดยซีรีย์ฝรั่งจะแตกต่างจากละครไทยอย่างเราอย่างเห็นได้ชัด
เพราะซีรีย์ฝรั่งจะมีปมปัญหาที่ทำให้คนดูนั่นคาดเดาเหตุการณืล่วงหน้าได้ยากมาก
บางครั้งก็ทำให้ดิฉันคาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างนั้น ทำให้ดิฉันรู้สึกประหลาดใจว่าผู้แต่งคิดได้อย่างไร
ซึ่งทำให้ดิฉันรู้สึกประทับใจในซีรีย์ฝรั่งเป็นอย่างมาก
โดยดิฉันจะดูซีรีย์ที่มีซับไตเติลเป็นซับไตเติลไทยประกอบด้วย
เพื่อทำให้เข้าใจในซีรีย์ ซึ่งซีรีย์ที่ดิฉันเลือกดูก็คือ The vampire
diaries ซึ่งตอนที่ดิฉันเลือกดูก็จะเป็นภาคแรกของซีรีย์เลย
โดยซีรีย์เรื่องนี้ก็จะเกี่ยวกับแวมไพร์ตามชื่อเรื่องนั่นเอง
ซึ่งเรื่องราวจะชวนติดตามเป็นอย่างโดยเนื้อเรื่องก็จะมีอยู่ว่าสองแวมไพร์หนุ่มพี่น้องตระกูลซัลวาทอร์
คนพี่ก็คือ เดม่อน คนน้องก็คือ สเตฟาน
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองได้กลายเป็นแวมไพร์มา145ปีและได้ออกเดินทางไปหลายประเทศ
และสเตฟานห็ได้กลับมายังเมืองมิสติคฟอลส์อีกครั้ง
ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ในเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตระกูลเขาและเป็นสถานที่เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด
เขาต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบมนุษย์ทั่วไป
เขาจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนที่ไฮสคูลแห่งหนึ่งและได้เจอกับเอลิน่า กิลเบิร์ต ซึ่งเป็นนางเอก
เธอได้สูญเสียพ่อและแม่โดยอุบัติเหตุรถคว่ำลงแม่น้ำในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา
เธอมีน้องชายชื่อ เจอร์เรมี่และมีเพื่อนสนิทสองคนคือ แคร์โรไลน์ และ บอนนี่
ซึ่งบอนนี่เป็นแม่มดที่สามารถใช้เวทมนต์ต่างๆจากยายของเธอและมีประสาทสัมผัส
เอลีน่าและสเตฟานต่างก็ตกหลุมรักกัน
ทั้งคู่รักกันอย่างมีความสุขแต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อเดม่อนได้กลับมายังเมืองมิสติคฟอลส์
เพื่อตามมารังควาญสเตฟานและสร้างความวุ่นวายให้กับเมืองนี้
ต่อมาเอลีน่าก็ได้รู้ความจริงว่า สเตฟานและเดม่อนคือแวมไพร์หนุ่มที่มีอายุ145ปี
ในขณะนั้นเดม่อนได้กัดวัยรุ่นที่กำลังเสพสารเสพติดและเขาก็ได้เปลี่ยนวิคกี้ให้เป็นแวมไพร์
ซึ่งเป็นน้องสาวของแมต เพื่อนร่วมชั้นที่เคยคบหากับเอลีน่าและวิคกี้ก็เป็นคนเจอร์เรมี่ชอบ
ดังนั้นสเตฟานและเดม่อนจึงกลายเป็นพี่เลี้ยงให้กับวิคกี้ที่เป็นแวมไพร์มือใหม่
สเตฟานบอกความจริงทั้งหมดแก่เอลีน่า ไม่ว่าจะเป็นจุดกำเนิดของการเป็นแวมไพร์ของเขา
ซึ่งผู้ที่ทำให้เขากลายเป็นแวมไพร์ก็คือ แคทเธอรีน ผู้ที่มีหน้าตาเหมือนกับเอลีน่าดั่งกับฝาแฝด
และในคืนงานปาร์ตี้วันฮาโลวีน ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนจะต้องแต่งตัวเป็นผี
วิคกี้ก็ได้หนีสเตฟานเพื่อมาหาเจอร์เรมี่
เธอรู้สึกกระหายเลือดแต่เอลีน่าก็เข้ามาได้จังหวะพอดี เธอจึงทำร้ายเอลีน่า
สเตฟานจึงเอาไม้มาแทงที่หัวใจของเธอ ทำให้เธอตายต่อหน้าต่อตาเจอร์เรมี่
เอลีน่าจึงขอร้องให้เดม่อนสะกดจิตให้เจอร์เรมี่ลืมเหตุการณ์ในวันนี้
แต่กลับเป็นเรื่องซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้น
เมื่อสภาผู้ก่อตั้งเมืองรู้ว่ามีแวมไพร์เข้ามาในเมืองและพวกเขาต้องการจะกำจัดแวมไพร์ทิ้ง
และตอนนี้บอนนี่ก็พยายามจะพิสูจน์ตัวเองว่าเธอเป็นแม่มดจริงหรือไม่
เธอจึงลองท่องคาถาต่างๆ และเธอก็ได้ใช้คาถาต่างๆในการช่วยเหลือ เอลีน่า สเตฟาน
เดม่อนและคนอื่นๆในเมืองมิสติคฟอลส์ ซึ่งเรื่องราวต่างๆก็เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ
รวมไปถึงการกลับมาของแวมไพร์ดั้งเดิมอีกด้วย
และผลที่ดิฉันได้รับจากการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากซีรีย์เรื่องนี้ ก็คือ ช่วยทำให้ดิฉันรู้คำทักทายที่ทันสมัยมากขึ้น เพราะคำทักทายเหล่านั้น มักจะเป็นคำที่เขาใช้สื่อสารกันจริงๆซึ่งเป็นคำที่ทันสมัยมากกว่าคำทักทายที่เราเรียนกันตามบทเรียนในหนังสือ นอกจากนี้การฝึกฟังยังทำให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษาและท่วงทำนองของการออกเสียงสูงต่ำไปในตัวอีกด้วย เมื่อฝึกฝนบ่อยๆเราก็จะเกิดความชำนาญและสามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งวัฒนธรรมวันสำคัญต่างๆที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในการทำความรู้จักหรือทำความเข้าใจภาษาได้อย่างลึกซึ้ง เพราะหากเรามีพื้นฐานในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาก็จะเป็นผลดีในการฝึกทักษะทางด้านภาษา แต่หากเราไม่มีความรู้อะไรเลยก็จะเป็นเรื่องยากในศึกษาภาษา ดังนั้นฝึกทักษะด้านภาษาให้ได้ผลจะต้องมีความรู้พื้นฐานและหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเท่านี้เราก็จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านภาษาและมีความสุขในการเรียนอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น