วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

From the heart




                                                From the heart










Chapter 1 วันแรกที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด

รถประจำทางของมหาลัยอ๊อกฟอร์ดมาสาย ฉันมองที่พ่อ และเขามองมาที่ฉัน ฉันไม่ได้พูด ฉันสามารถพูดอะไรได้? มันเป็นสิ่งดีที่เจนอยู่ที่นี่
โทรหาพ่อ เมื่อลูกถึงมหาลัยแล้วนะ แอนนาพ่อพูด
ได้คะ พ่อ
เจนยิ้มและจับแขนของพ่อ ดีเร็ค แอนกำลังจะไปได้ดี เธอโตเป็นสาวแล้วตอนนี้
ผมรู้พ่อพูด แต่มีผู้คนไม่ดี ส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่น
พ่อ!’
รถประจำทางมาหลังจากสายประมาณสอบนาที พวกเราทั้งหมดบอกลากันและฉันขึ้นรถ ฉันนั่งลงและดูเจนกับพ่อที่กำลังยืนอยู่ที่นั่น กำลังยิ้มมาที่ฉัน ฉันชอบเจน เธอและพ่อเป็นเพื่อนที่ดี พวกเขาเจอกันที่ทำงาน แน่นอน นั่นเป็นเพราะแม่จากพวกเราไป แต่ฉันไม่ต้องการคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น
5 นาที่ต่อมา รถประจำทางออก ฉันต้องจากลาเจนและพ่อและบ้านหลังเก่า บนรถมันร้อนและฉันถอดเสื้อโค้ดตัวใหม่ออก มันเป็นของขวัญจากพ่อ สำหรับการปีนที่เวลส์ พวกเราสามารถไปปีนเขาอีกครั้งเมื่อคุณอยู่ที่อ๊อกฟอร์ดเขาพูด พวกเราต้องการกลับไปที่เวลส์อีกครั้งในเดือนหน้า
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถประจำทางและคิดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ฉันกำลังเป็นนักศึกษาที่ มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดฉันคิด แต่ฉันจะชอบมันหรือไม่?

วันแรกที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดน่าตื่นเต้น ทุกสิ่งใหม่ ฉันมีห้องใหม่ที่อาศันอยู่ ฉันซื้อหนังสือจำนวนมากและพบผู้คนหน้าใหม่จำนวนมาก มีผู้หญิงสองคนอยู่กับฉัน เพ็นนี่และแม็กด้า เพ็นนี่มาจากแมนเชสเตอร์และแม็กด้ามาจากเยอรมันนี ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

            ช่วงท้ายของวันแรก มีงานเต้นรำสำหรับนักศึกษาใหม่ เพ็นนี่ แม็กด้าและฉันเต้นกับผู้ชายที่นั่น แต่พวกเขาทั้งหมดยังหนุ่ม! ส่วนใหญ่เพ็นนี่ แม็กด้าและฉันจะเต้นด้วยกัน

            ที่นี่ร้อนจังเพ็นนี่พูด ไปดื่มกันเถอะ

ใช่แม็กด้าพูด ฉันกระหายน้ำพอดี

ตกลงฉันพูด ไปเถอะ

            มีคนจำนวนมากที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้า แต่ฉันดันไปข้างหน้า ชายหนุ่มที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้าเป็นคนสูงและผมดำ เขาดูดีฉันคิด จากนั้นเขามองมาที่ฉัน เขามีตาสีฟ้าที่สวย! จกนั้นเขายิ้ม

 

คุณต้องการรับอะไรครับ?เขาถาม เขาพูดจาไพเราะ แต่เขาไม่ใช่คนอังกฤษ เขาเป็นคนต่างถิ่น เขามาจากที่ไหนนะ?

เบียร์สองและโค้กหนึ่งคะฉันตอบ

เบียร์สองและโค้กหนึ่งครับเขาพูดและเขาให้เครื่องดื่มแก่ฉัน ทั้งหมดด3.40 ปอนด์เขายิ้มให้ฉัน

ฉันให้เงินแก่เขาและฉันเริ่มเอาเครื่องดื่มกลับไปที่เพ็นนี่และแม็กด้า

ให้ฉันช่วยคุณไหม?ใครบางคนถาม หญิงสาวตัวเล็กกับการยกเครื่องดื่มใหญ่ มันไม่ถูกต้อง !’

ฉันเงยหน้าและเห็นชายหนุ่มหน้าแดงที่อยู่ถัดจากฉันที่เคาท์เตอร์ในร้านเหล้า เขาดูเมา ฉันไม่ชอบคนเมา

ฉันโกรธแต่ฉันพูดอย่างเร็ว ฉันสามารถถือเครื่องดื่มของได้ โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ ขอบคุณมาก

คุณไม่เข้าใจผู้ชายคนนั้นตอบ ชายหนุ่มต้องช่วยหญิงสาวเสมอ ครั้งหนึ่งพ่อของฉันเคยบอกซีแบสเตียน ลูกชายเขาพูด --’

ตกลง ซีแบสเตียนฉันพูด ฉันไม่ได้สนใจพ่อของคุณหรือคุณ ฉันสามารถผ่านไปได้ไหม?

ฉันเริ่มเดินผ่านเขา แต่เขากางแขนออกเพื่อที่จะหยุดฉัน ฉันหยุด ฉันผลักแขนเขาออก น้ำโค้กหกไปที่เสื้อเชิ้ตของซีแบสเตียน

เธอมันผู้หญิงโง่เขาพูด ดูเสื้อสุดหล่อของฉัน!’ ซีแบสเตียนโกรธมาก เขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน แขนขวาของเขาชูขึ้น ทันใดนั้นฉันกลัว เขากำลังจะตบฉันฉันคิด

 ‘หยุดก่อนใครบางคนพูดอย่างรวดเร็ว มันคือผู้ชายใกล้เคาท์เตอร์ร้านเหล้า อย่าตบหญิงสาวคนนั้นนะ

แกพูดกับฉันหรอ?ซีแบสเตียนถาม หน้าของเขาแดงกว่าตอนแรก

ใช่ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มตอบ และฉันถามคุณการทำดีกับหญิงสาวคนนั้น ผู้ชายไม่ตบผู้หญิงในประเทศของฉัน

ประเทศของแก? และประเทศของแกคืออะไร?

ฉันมาจากบอสเนียชายเสิร์ฟเครื่องดื่มตอบโอ้! แกเป็นพวกอพยพซีแบสเตียนตอบ

ดี ฉันสามารถบอกบางอย่างกับแกได้ไหม? พวกเราไม่ต้องการพวกอพยพจำนวนมากเข้ามาในประเทศของเรา ขอบคุณมาก โอ้ ตำรวจจะรู้ไหมว่าแกอยู่ที่นี่? หรือแกเป็นพวกต่างด้าว

ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มไม่พูดอะไร

แกรู้อะไรไหม?ซีแบสเตียนถาม ฉันคิดว่าฉันจะโทรหาตำรวจ-----’

จากนั้นหญิงสาวเข้ามาหาที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้า เธอจับแขนของซีแบสเตียน

คุณอยู่นี่เธอพูด เร็วเข้า ซีแบสเตียนครัวซ์และมาเรียรอพวกเราอยู่ พวกเขาอยู่ที่โน่น โอ้ ซีแบสเตียน คุณไปทำอะไรกับเสื้อเชิ้ต?

หญิงสาวและซีแบสเตียนเริ่มเดินจากไป

ฉันบอกเธอเอง จินนี่ ฉันกำลังจะโทรหาตำรวจ ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มคนนั้น ----’

อย่าโง่ ซิปปี้ มาถึงแล้วตอนนี้

จินนี่และซีแบสเตียนกลับไปที่เพื่อนของพวกเขา ฉันมองไปที่ชายเสิร์ฟเครื่องดื่ม

ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือฉันพูด

ไม่เป็นไรเขาตอบ

มันเป็นเรื่องจริงไหม?ฉันถาม คุณมาจากบอสเนียหรอ?

ใช่ครับ ผมมาจากซาราเยโวและผมชื่อซีลิม

 



 

 

 

 

Chapter 2  เรื่องของซีลิม

 

ซีลิมยิ้มมาที่ฉันอีกครั้ง จากนั้นเพ็นนี่และแม็กด้ามาจากเคาท์เตอร์ร้านเหล้า

เธอได้เครื่องดื่มหรือยัง?เพ็นนี่ถาม

ได้ ขอโทษนะฉันพูด มีบางคนผลักฉันและฉันทำโค้กหก

นี่ไงซีลิมพูด และเขาให้โค้กแก้วใหม่แก่ฉัน เขาวางกระดาษแผ่นเล็กบนมือฉันอย่างเร็วด้วย ฉันใส่กระดาษไว้ในกระเป๋าและส่งโค้กให้เพ็นนี่

พวกเรานั่งและดื่มเครื่องดื่มจนหมด เวลาต่อมา แม็กด้ามองนาฬิกาข้อมือของเธอ

ฉันขอไปก่อนนะเธอพูด ฉันเหนื่อยดังนั้นพวกเรากลับ

เมื่อฉันมาถึงบ้าน ฉันหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าและเปิดมัน มันมีเบอร์โทรศัพท์และถัดจากนั้นมีตัวหนังสือตัวใหญ่ว่า โทรหาฉัน --- ซีลิม

วันต่อมาฉันโทรหาซีลิม ฉันต้องการเจอเค้าอีกครั้ง ฉันต้องการรู้เกี่ยวกับเขามากกว่านี้

ฉันรู้บงอย่างเกี่ยวกับบอสเนีย แต่ฉันต้องการรู้อีก ทำไมเขาถึงอยู่บริเตน เขาเป็นพวกคนต่างด้าวใช่หรือไม่?

ฉันสนใจเรื่องของซีลิม แต่มันมีบางอย่างที่มากกว่านั้น ฉันจำดวงตาสีฟ้าและรอยยิ้มที่อ่อนโยนได้

เมื่อคิดเกี่ยวกับซีลิม ฉันรู้สึกตื่นเต้น!

พวกเราเจอกันตอนบ่ายโมงและเดินผ่านแม่น้ำ มันเป็นวันสดใส พวกเรามาที่ร้านกาแฟถัดไปจากแม่น้ำ

พวกเราดื่มกาแฟและนั่งคุยกัน ฉันถามเขาเกี่ยวกับบอสเนีย

แม่และพ่อของคุณอยู่ที่ซาราเยโวหรอ?

ซีลิมปิดตา แม่และพ่อของผมเสียแล้วครับเขาตอบ พวกเขาเสียชีวิตบนถนนของซาราเยโว วันหนึ่งพวกเขาไปที่ร้านขายของที่ซื้อของกิน มีระเบิดอยู่บนถนนและมันก็ฆ่าพวกเขา

โอ้ ซีลิม ฉันเสียใจด้วยนะฉันพูด ฉันควรจะพูดอะไรดี?

ผมอยู่ที่บอสเนียเพื่อหางาน แต่ไม่มีงานในซายาเยโว และที่นั่นมันอันตรายสำหรับผม ผู้คนต้องการฆ่าผม ไม่มีอะไรสำหรับผมในบอสเนีย ผมรู้ภาษาอังกฤษจากโรงเรียน ดังนั้นผมจึงไปบริเตนเขาหัวเราะ ผมให้เงินจำนวนมาแก่เพื่อนเพื่อพาผมมาที่นี่ แต่ตอนนี้ที่นี่บริเตน พวกเขาบอก กลับบอสเนียซะ” ’

แต่มันอันตรายสำหรับคุณถ้าอยู่บอสเนีย คุณพูดอย่างนั้น

ใช่ ผมบอกำวกเขาแต่พวกเขาบอกว่า คุณอยู่ในบริเตน เพราะว่าคุณต้องการทำงานที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่าบอสเนียอันตรายดังนั้นตอนนี้ผมจึงเป็นคนต่างด้าว และผมก็กลัวตำรวจ

แล้วคุณจะหางานที่นี่อย่างไร?

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหางาน และงานก็ไม่ดี เมื่อมีงานที่บอสเนีย ผมทำงานคอมพิวเตอร์ ที่นี่ผมทำงานในร้านเหล้าและร้านกาแฟ ผมบอกว่า ผมเป็นกรีกชาวกรีกสามารถทำงานที่นี่ไดเ แต่ไม่ใชคนบอสเนีย ดังนั้นในบริเตน ผมจึงเป็นคนกรีก

ซีลิมหัวเราะอีกครั้ง แต่มันไม่ได้เป็นหัวเราะแบบมีความสุข พวกเราดื่มกาแฟและดูแม่น้ำ

คุณคิดถึงบอสเนียไหม?ฉันถาม

บางครั้ง ฉันคิดถึงภูเขา ในบอสเนียทุกวันเสาร์อาทิตย์ผมไปภูเขา ผมรักการปีนเขา

แต่ที่นี่ไม่มีภูเขาซีลิมพูด

ไม่ในอ๊อกฟอร์ด แต่มีภูเขาที่เวลส์ มันไม่ไกลจากที่นี่ พ่อของฉันและฉันจะไปปีนเขาที่เวลส์เดือนหน้า

จากนั้นฉันคิดเกี่ยวกับบางอย่าง

 ‘ซีลิม ฟังนะฉันพูด มีมหาวิทยาลัยสอนปีนกำแพงมันสนุกดีนะ สัปดาห์หน้าเราไปปีนกันเถอะ

ดังนั้นสัปดาห์ถัดมา พวกเราเจอกันที่มหาวิทยาลัยการปีนกำแพง ซีลิมเงยดูมัน

มันใหม่สำหรับฉันเขาพูด พวกเราไม่เคยปีนกำแพงในบอสเนีย

มันง่ายฉันพูด ดูฉันนะฉันปีนหนึ่งในเส้นทางขึ้นที่ง่ายบนกำแพง ซีลิมดูฉัน จากนั้นเขาทำตาม

เขาเก่ง ฉันสามารถเห็น เขาเคลื่อนไหวขึ้นอย่างง่าย เมื่อเขาลงมา เขายิ้ม

ผมชอบมันนะเขาพูด คุณพูดถูก มันสนุกแต่มันง่ายมาก ไปลองลู่ที่แตกต่างกันเถอะ

ดังนั้นพวกเราลองเส้นทางที่ยาวกว่า ตอนนี้พวกเรามีเชือก ฉันไปคนแรก ซีลิมตามหลังฉัน ฉันเป็นนักปีนที่ดี แต่ซีลิมดีกว่าฉัน

เมื่อพวกเราเสร็จ ซีลิมพูดว่า มันดี เราสามารถเล่นอีกครั้งได้ไหม? อาจจะเป็นอาทิตย์หน้า?

ฉันมองเขาและยิ้มอย่างมีความสุข ฉันชอบมันฉันพูด

 

 

 

 



 

Chapter 3 About my father เกี่ยวกับพ่อของฉัน


พ่อโทรหาฉันเมื่อตอนเย็นวันนั้น

สบายดีไหม?พ่อถาม เป็นอย่างไรบ้าง?

ดีค่ะ พ่อฉันตอบ หนูกำลังมีช่วงเวลาที่วิเศษที่นี่

อย่าลืมมาเยี่ยมพวกเราที่เวลส์นะ

ไม่ได้คะ ไม่แน่นอน พ่อก็รู้ หนูเรียนมหาวิทยาลัยการปีนกำแพงวันนี้ และมันสนุกดี พวกเรามีช่วงเวลาที่ดีค่ะ

ลูกไปกับหนึ่งในเพื่อนของลูกหรอ?

ก็ใช่คะ พ่อค่ะ หนูต้องไปก่อนนะค่ะ เพ็นนี่อยู่ที่นี่และเธอกำลังรอหนูอยู่ พวกเราจะไปทำอาหารเย็นคืนนี้กัน เราคุยกันใหม่อาทิตย์หน้านะค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ

แน่นอน เพ็นนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ฉันไม่สามารถบอกพ่อเกี่ยวกับซีลิม ทำไมหรอ?  งั้นเพื่อให้คุณเข้าใจ ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องบอกคุณบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของฉัน

เขาชื่อว่าดีเร็ค ดีเร็ค ปาล์มเมอร์ เขาทำงานอยู่ในโรงงาน มันเป็นโรงงานสวีเดนและมันผลิตโทรศัพท์มือถือ ลูนเบิร์ก บางทีคุณอาจจะรู้จักชื่อ มันเป็นโรงงานใหญ่และมีคนจำนวนมากทำงานที่นี่ พ่อเป็นผู้จัดการในโรงงาน ในความจริงเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย เขาทำงานเก่ง แต่เมื่อปีที่ผ่านมาการขายไม่ค่อยดี พ่อบอกฉันเกี่ยวกับมันในวันหนึ่ง

นี่แหละพ่อพูด ในบริเตนมากกว่าร้อยละ70 ของคนมีโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นตอนนี้พวกเรากำลังขายเพียงแค่ร้อยละ30ของคน พวกเราจะทำอะไรเมื่อทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ?

เพราะเหตุนี้พ่อจึงกังวลเกี่ยวกับงาน แต่นั่นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนั้น

ลูนเบิร์กเป็นบริษัทที่ใหญ่ มันมีผู้จัดการทั้งชาวอังกฤษและชาวสวีเดน หนึ่งในชาวสวีเดนเรียกชื่อว่า ลาร์

เขาและพ่อกลายเป็นเพื่อน เพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาไปข้างนอกเพื่อดื่มด้วยกันบ่อยๆ จากนั้นลาร์เริ่มกลับมาที่บ้านของพวกเราสำหรับมื้อเย็น แม่ พ่อและลาร์ทำสิ่งต่างๆด้วยกัน

แม่---จิลคือชื่อเธอ --- ไม่สนใจเรื่องการปีนเขา เธอชอบไปดูหนัง ลาร์ก็ชอบเหมือกัน ดังนั้นแม่กับลาร์เริ่มไปดูหนังด้วยกัน พวกเขามักจะออกไปดูหนังด้วยกันทุกวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่พ่อและฉันจะไปปีนเขา

ฉันไม่เคยสามารถลืมสัปดาห์หนึ่ง --- สัปดาห์นั้น เมื่อทุกอย่างผิดปกติ พ่อและฉันกลับมาในคืนวันอาทิตย์เหมือนปกติ มันดึก และบ้านก็มืด แม่ไม่อยู่ที่นี่ ฉันดูชั้นล่าง พ่อดูชั้นบน เพื่อหาแม่ ฉันรู้สึกเป็นห่วง แม่อยู่ไหนนะ?  บางทีแม่อาจจะออกไปดื่มกับลาร์ก็ได้ฉันคิด

เมื่อฉันได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านบน ฉันขึ้นไปและเปิดประตูของห้องแม่และพ่อ พ่อยู่บนเตียงและหันหลังให้ฉัน ฉันเข้าไปที่พ่อ เมื่อเขาเงยหน้ามาที่ฉัน ตาของเขาเป็นสีแดง เขามีจดหมายในมือ

เกิดอะไรขึ้นค่ะ พ่อ? มันคืออะไร?

พ่อไม่พูดอะไร แต่ให้จดหมายแก่ฉัน ฉันไม่ต้องการอ่านมัน

แม่ไปกับลาร์พ่อบอก แม่รักเขาเธอบอก

 ‘ลูกรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?

ไม่ค่ะ พ่อ ไม่แน่นอน

ฉันจะทำอะไรถ้าไม่มีแม่? ฉันรู้สึกกลัว ฉันเดินไปที่พ่อและกอดเขา พวกเราร้องหนักทั้งคืน

แม่ไม่กลับมา ลาร์ได้งานที่สวีเดนและแม่ก็ไปกับเขา พ่อเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนแรก จากนั้นเขาก็เริ่มโกรธ เขาโกรธแม่กับลาร์ ลาร์คือเพื่อนของเขา เขาคิด  เพื่อนสามารถทำคุณได้อย่างไร?

จากนั้นเขาเริ่มหาคำตอบจากคำถามนั้น มันเป็นเพราะว่าลาร์เป็นคนต่างถิ่น เขาพูด คนอังกฤษไม่ทำกับเพื่อนของเขา แต่คนต่างถิ่นเท่านั้นที่ทำ

แน่นอน นั่นมันไม่ใช่ความจริง คนอังกฤษไม่ได้แตกต่างไปจากคนประเทศอื่น ฉันบอกพ่อครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ฉันไม่สามารถทำให้เค้าเปลี่ยนคามคิดได้

หลังจากที่แม่จากไป เขาเกลียดคนต่างถิ่น และเขาเกลียดพวกคนอพยพมากที่สุด

พวกเขากลับมาที่นี่และพวกเขาเอางานของพวกเราไปเขาพูด

จากนั้นพวกเขาก็เอาผู้หญิงของเราไปด้วย ฉันขอทั้งหมดกลับบ้าน

บางทีตอนนี้พ่อกำลังจะเปลี่ยนไป  เขาคบกับเจน เธอมาทำงานที่ลูนเบิร์กได้หนึ่งเดือน หลังจากที่แม่จากพวกเราไป ฉันคิดว่าเจนดีสำหรับพ่อ เธอต่างจากแม่แต่เธอดีกับฉัน ฉันสามารถคุยกับเจน แต่ไม่สามารถคุยกับพ่อได้ และฉันก็ไม่ต้องการบอกเขาเกี่ยวกับซีลิม

 

 


 


 

                                 Chapter 4 การขึ้นเขาของฉันในวันหยุดสัปดาห์

 

ฉันเห็นซีลิมมากในเดือนหน้าหรือสองเดือน ฉันชอบเขามาก เขาดูดี แต่เขามีมากกว่าดูดี เขาอ่อนโยน ภาษาอังกฤษของเขามักไม่ค่อยถูก แต่เขาอยู่งายและพูดง่าย แต่วันหนึ่ง เมื่อพวกเราเจอกัน เขาโกรธ เขามาพร้อมกับจดหมาย

ดูนี่เขาพูด ผมต้องไป ตอนนี้ผมต้องออกจากอังกฤษ ผมต้องกลับไปบอสเนีย

แต่ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?

มีบางคนบอกพวกเขาเกี่ยวกับผม พวกเขาเห็นผมทำงานในร้านกาแฟ เขาไม่ใช่คนกรีกพวกเขาพูด เขาเป็นพวกต่างด้าว” ’

เขาหันมาที่ฉัน ทำไมพวกเขาเกลียดผม?เขาถาม ผมไม่เข้าใจ ผมไม่ต้องการเอาเงินจากประเทศนี้ ผมไม่ต้องการบางอย่างสำหรับไม่มีอะไร ผมต้องการแค่อยู่ที่นี่และทำงาน ผมเป็นผู้ชาย ผมรู้สึกถึงความคิดหรือคำพูด ผมมีหัวใจ ทำไมคนอังกฤษถึงกลัวผม?

ฉันไม่รู้ฉันตอบ คนอังกฤษบางคนก็ไม่ชอบคนต่างถิ่น คุณแตกต่างจากพวกเขา และพวกเขาไม่ชอบคนที่แตกต่าง อย่าคิดเกี่ยวกับพวกเขาเลย ซีลืม คิดเกี่ยวกับฉันสิ ฉันชอบคุณนะ

ฉันจูบเขา แต่เขาไม่ได้จูบฉันกลับ เขาโกรธมาก

วันต่อมา ซีลิมโกรธอีกแล้ว เมื่อฉันบอกเกี่ยวกับการปีนเขาในวันหยุดสุดสัปดาห์กับพ่อ

ได้โปรด อยู่กับผมในสัปดาห์นี้เถอะนะ เขาขอร้อง

ฉันขอโทษนะ ซีลิม แต่พ่อและฉันวานแผนไปเที่ยวที่เวลส์ไว้นานแล้ว

คุณโชคดีที่มีพ่อซีลิมพูด ตอนนี้เขาเศร้า พ่อของผมเสียชีวิต เขาตายพร้อมกับแม่เมื่อห้าสัปดาห์ที่แล้ว มันคือวันที่ 26 เดือนตุลาคม วันเสาร์

โอ้ ซีลิม ฉันเสียใจ ฉันไม่ร็เกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันอยากจะอยู่กับคุณ แต่ฉันต้องไปกับพ่อ คุณไม่เข้าใจหรอ?

เพราะฉะนั้นคุณจะทิ้งผมที่นี่ เขาพูด

ฉันไม่พูดอะไร และซีลิมนั่งและมองฉัน เศร้าและโกรธ และไม่พูดอะไร สุดท้ายพวกเราบอกลากัน และฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกในสัปดาห์นั้น

พ่อมารับฉันที่มหาวิทยาลัยในวันศุกร์ตอนบ่าย และพวกเราขับรถไปที่เวลส์ พ่อมีความสุขและตื่นเต้น พ่อมักจะมีความสุขเสมอ เมื่อเขาไปปีนเขา ในรถพวกเราคุยเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์

พ่อต้องการปีนเขาไทร์เฟนเขาตอบ

ฉันไม่ตอบ  เขาไทร์เฟนไม่ใช่ภูเขาลูกใหญ่ แต่มันไม่ง่ายที่จะปีน

พ่อมองมาที่ฉัน

พวกเราทำได้ แอนนาพ่อพูด

หนูไม่ทราบค่ะ จะคอยดูค่ะ พ่อฉันตอบ

รุ่งเช้าต่อมา มันอบอุ่นและดวงอาทิตย์ก็ร้อน

แต่ทันใดนั้นดวงอาทิตย์หายเข้ากลีบเมฆและท้องฟ้าก็มืดขึ้นและมืดขึ้น

ขณะที่พวกเราเดินข้ามทุ่งนาทุ่งไร่ไปเขาไทร์เฟน ฝนเริ่มตก มีหินอันตรายบนเขาไทร์เฟน และตอนนี้พวกเราเปียก พ่อไปก่อน เท้าของเขาลื่นหินเปียกและเขาหยุด ตอนนี้ฉันปีนขึ้นไปด้านบนผ่านพ่อ ฉันสามารถเห็นเส้นทางด้านบนภูเขา แต่มันจะไม่ง่าย จากนั้นฉันมองลงไป พ่อมีเชือกในมือ แต่เขาเหนื่อย เขาสามารถปีนขึ้นมาได้ไหม? ฉันไม่คิดว่าเขาทำได้ ฉันขอร้องพ่อ

พ่อไม่สามารถทำมันได้ พ่อกำลังจะตกลง

พ่อและฉันนั่งที่ใต้ก้อนหิน พวกเรากินแซนวิชและดื่มกาแฟ ฝนแย่กว่าเมื่อก่อน

ปีนเขาไทร์เฟนวันอื่นเถอะค่ะ พ่อฉันพูด

ตกลง พวกเราสามารถกลับมาที่นี่อีกครั้ง บางทีช่วงเทศกาลอีสเตอร์ สภาพอากาศอาจจะดีกว่านี้ ลูกคิดว่ายังไง?

ตกลงค่ะ ค่อยมาช่วงเทศกาลอีสเตอร์กันฉันพูด

พวกเราคุยกัน พ่อมีความสุข ความสุขกว่าปกติ ฉันคิด บางทีมันอาจจะเป็นเวลาดีที่จะบอกเขาเกี่ยวกับซีลิม

พ่อค่ะ………’ฉันเริ่ม

ว่าไง แอนนา

มีชายหนุ่มที่มหาวิทยาลัย…….’ ไม่ มันไม่ถูก ฉันเริ่มอีกรอบ

พ่อค่ะ หนูมีเพื่อนที่มหิทยาลัยฉันพูด ผู้ชาย….’

แฟน!  พ่อต้องพูดมันเร็วไปพ่อตอบและยิ้ม เล่าให้พ่อฟังเกี่ยวกับเขาหน่อย

คือ เขามีผมสีดำและตาสีฟ้า…’

พ่อหัวเราะ ใช่ ใช่เลย ทั้งหมดมันน่าสนใจ แต่บอกพ่อหน่อย เขาเป็นคนดีไหม?

ค่ะพ่อ เราเป็นคนดีและอ่อนโยน โอ้และเขาเป็นนักปีนเขาด้วยนะค่ะ เขาปีนเขาเก่ง พวกเราไปเรียนปีนกำแพลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เยี่ยม เยี่ยม บางทีพวกเราสามารถปีนเขาด้วยกัน เขาชื่ออะไรล่ะ?

‘…..แซมฉันตอบ เขาชื่อแซม

คือ ฉันพูดอะไรออกไป? ซีลิมไม่ใช่ชื่อคนอังกฤษ หลังจากทั้งหมดและคุณก็รู้เกี่ยวกับพ่อของฉันและคนต่างถิ่น!

 




           

Chapter 5 กลับบ้านในวันคริสต์มาส


ในสัปดาห์ถัดมา ฉันลืมเกี่ยวกับซีลิม เกี่ยวกับพ่อ และเกี่ยวกับการปีนเขา ฉันอยู่ในห้องและฉันทำการบ้านหนัก ฉันมีสอบในเดือนธันวาคม และฉันก็กังวงเกี่ยวกับมัน ฉันต้องการทำมันให้ดี
จากนั้นวันหนึ่ง ซีลิมมาเจอฉัน เขากระวนกระวายใจมาก
พวกเขาส่งจดหมายฉบับใหม่มาให้ผมเขาบอก ตอนนี้ผมต้องไปจากบริเตนภายในสองเดือน ผมไม่สามารถกลับบอสเนีย ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง?
ซีลิมฉันเรียก มีองค์กรในอ๊อกฟอร์ดเรียกว่าองค์กรที่ช่วยเหลือผู้อพยพ พวกเขาช่วยเหลือผู้คนเหมือนคุณ แม็กด้าบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอให้เบอร์โทรศัพท์แก่ฉัน คุณต้องการมันไหม?
พวกเราสามารถช่วยฉันได้หรอ?
ได้ แน่นอน พวกเขาช่วย ซีลิม พวกเราทั้งหมดไม่ได้เกลียดพวกอพยพในบริเตน
คุณไม่เกลียดหรอ?
ซีลิม ฉันไม่ต้องการเถียงกับคุณนะฉันพูด นี่เบอร์โทรศัพท์ ให้พวกเขาโทรซะ
การสอบของฉันไม่ได้ง่าย แต่ฉันตอบคำถามมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงมีความสุข แต่ฉันเหนื่อยมาก ฉันกลับบ้านสำหรับวันคริสต์มาส
พ่อไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเจอฉันที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร แต่เจนมาพบฉันและพวกเราก็กอดกัน
ทำไมพ่อไม่อยู่ที่นี่ด้วยล่ะค่ะ? เกิดอะไรขึ้นหรอ?
มันคือโรงงาน แอนนา พวกเขาจะปิดมัน ตอนนี้ลูนเบิร์กจะผลิตโทรศัพท์ที่สวีเดน พ่อของเธอโกรธมาก มันเป็นพวกต่างถิ่นอีกแล้วเขาพูด
เขามักจะพูดแบบนั้นเสมอ มันเป็นเรื่องเหลวไหล!’
อย่าโกรธพ่อเธอเลย แอนนา พยายามทำดีกับเขา เขารักเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ได้ง่ายสำหรับเขา
หนูรู้ค่ะ เจน แต่… ’ และจากนั้นฉันเริ่มร้องไห้และฉันไม่สามารถหยุดมันได้
เป็นอะไร? แอนนา คุณโทรหาหนูนะค่ะและฉันบอกเธอเกี่ยวกับซีลิม มันง่ายที่จะคุยกับเจน
เอาล่ะ แอนนาเธอพูด ฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพ่อของเธอ อย่าพูดอะไรกับเขาในตอนนี้เธอพูดต่อ มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาเป็นกังวลมากเกี่ยวกับงาน
พวกเราไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับโรงงานได้เลยหรอค่ะ?ฉันถาม
พวกเราไม่สามารถหยุดการปิดโรงงานได้หรอ? พวกเราไม่สามารถทำให้ลูนเบิร์กเปลี่ยนแผนหรอค่ะ?
ฉันพูดกับพ่อเธอแล้วแต่เขาไม่ฟัง ไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้เขาบอกฉัน แต่ฉันคิดว่าพวกเราสามารถทำบางอย่างเกี่ยวกับมันได้ และฉันจะพยายามเจนพูด
ฉันพยายามทำดีกับพ่อ ในวันแรกหรือวันที่สอง เขาสบายดี แต่ในวันคริสต์มาส พวกเราโต้เถียงกัน พ่อเริ่มพูดเกี่ยวกับโรงงานอีกแล้ว
นี่มันเป็นพวกอพยพเขาพูด
พวกเขามาที่และพวกเขาเอางานของพวกเราไป และจากนั้นคนอังกฤษก็ไม่สามารถหางานทำได้
พ่อค่ะ นั่นเป็นเรื่องเหลวไหล พวกเราต้องการคนอพยพมาทำงานที่นี่ พวกเขาทำงานหนัก พวกเขาทำงานสกปรก พ่อก็รู้ ฉันชอบพวกอพยพ หนูคิดว่าพวกเรานำสีสันและชีวิตมาให้ประเทศนี้
โอ้! ลูกชอบพวกอพยพหรอ? บางทีลูกอาจจะมีเพื่อนที่เป็นพวกอพยพในอ๊อกฟอร์ดใช่ไหม?
ดีเร็ค….’ เจนพูด
ใช่ค่ะ หนูมี!’ ฉันพูดต่ออย่างโกรธ หนูบอกพ่อเกี่ยวกับแฟนของหนู พ่อจำได้ไหมค่ะ? เอาล่ะ เขาไม่ได้ชื่อแซม แต่มันคือซีลิม และเขาก็มาจากบอสเนีย ใช่ค่ะพ่อ แฟนของหนูเป็นพวกอพยพ และหนูรักเขา แล้วพ่อจะทำอย่างไร?
หน้าของพ่อซีด เขาออกจากห้องอย่างเร็ว เจนตามเข้าไป
เย็นวันนั้น ฉันโทรหาซีลิม สุขสันต์วันคริสต์มาสเขาพูดกับฉัน
โอ้! ซีลิม ฉันกำลังมีวันคริสต์มาสที่แย่มากฉันบอก พ่อและฉันเถียงกัน
พวกคุณเถียงกันเรื่องอะไรล่ะ?เขาถาม
อ๋อ ไม่มีอะไรสำคัญหรอกฉันตอบ แล้วคุณล่ะ? วันคริสต์มาสเยี่ยมไหม?
ยอดเยี่ยมเลย แอนนาเขาตอบ ผมมีความสุขมาก พวกเขาอนุญาตให้ผมอยู่ที่นี่สามเดือนหรือมากกว่านั้น องค์การช่วยเหลือผู้อพยพจะช่วยผม พวกเขาบอกผมในวันจันทร์ ผมพยายามโทรและโทรหาคุณก่อน
ซีลิม มันวิเศษไปเลย ฉันยินดีกับคุณด้วยนะ
แอนนา ผมรักคุณนะ
ฉันก็รักคุฯเหมือนกัน ซีลิม และตอนนี้ฉันต้องการอยู่กับคุณ
สองวันต่อมา ฉันออกจากบ้านและกลับอ๊อกฟอร์ด
ไม่ช้าฉันเจอห้องในบ้าน สำหรับซีลิมและฉัน เพื่อที่จะเช่าอยู่
พวกเราโชคดี เพื่อนของแม็กด้าย้ายออกจากอ๊อกฟอร์ด เมื่อวันขึ้นปีใหม่ และพวกเราก็ย้ายเข้ามาที่ห้อง
พวกเรามีความสุขมาก ทุกวันฉันไปมหาวิทยาลัยและเขาไปทำงานที่ร้านกาแฟ พวกเราไม่มีเงินมาก แต่มันก็โอเค พวกเรามีความรัก
ฉันโทรไปที่บ้านเพื่อบอกพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่เคยอยู่ที่นี่ เมื่อฉันโทร
บางทีเขาไม่ต้องการคุยกับฉัน แต่ฉันบอกเจนเกี่ยวกับฉันและซีลิมแล้ว และเธอก็ยินดีสำหรับเรา






                                                       Chapter 6 มีความรัก


ฉันไม่ได้ยินเสียงพ่อมาหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นวันศุกร์ เจนโทรมาและเธอกับฉันก็คุยกัน เช้าถัดมากพ่อและเจนมาเจอพวกเราที่อ๊อกฟอร์ด ซีลิมเปิดประตูให้พวกเขา
พ่อไม่ค่อยมีความสุขที่เจอซีลิม แต่เจนยิ้มให้เขาและจูบฉัน
ฉันเชิญพวกเขาเข้าด้านใน แลพพวกเรานั่งลง ฉังชงกาแฟและจากนั้นพวกเราคุยกัน เจนคุยก่อน
พวกเรามีบางอย่างที่วิเศษจะบอกพวกคุณ มันเกี่ยวกับโรงงานลูนเบิร์ก มันจะไม่ปิดแล้วตอนนี้
ขอบคุณนะ ที่รักพ่อพูด บอกพวกเขาเกี่ยวกับมันเถอะ เจน
เอาล่ะเจนพูด ฉันมีเพื่อนที่เป็นหัวหน้าบริษัทของฮายาชิ บริษัทโทรศัพท์ญี่ปุ่น เธอบอกฉันว่า ฮายาชิต้องการเปิดโรงงานใหม่ที่ยุโรป ดังนั้นฉันจึงบอกเธอเกี่ยวกับโรงงานลูนเบิร์ก พวกเขาซื้อโรงงานในเดือนเดือนมา ----และคนงานทั้งหมดสามารถอยู่ต่อได้
มันยอดเยี่ยมค่ะ!’ ฉันพูด มันไม่ใช่ซีลิมหรอ?
มีบางอย่างที่มากกว่านั้น เจนพูด ดีเร็คต้องการพูดบางอย่างกับซีลิม พูดเลย ดีเร็ค
โอเคพ่อตอบ เขาพูดอย่างเร็ว ฟังนะ ซีลิม ฉันพูดสิ่งที่โง่ๆเกี่ยวกับคนต่างถิ่นและพวกอพยพ ฉันขอโทษ แต่ตอนนี้ฉันต้องการให้พวกเราเป็นเพื่อนกัน
ตกลงครับซีลิมตอบ เธอระกแอนนาและฉันก็รักเธอเหมือนกัน มันเป็นสิ่งดีสำหรับพวกเราที่จะเป็นเพื่อนกัน
ซีลิมลุกขึ้นยินและกอดพ่อ หน้าของพ่อแดง แต่หลังจากนั้นเขายิ้มและกอดซีลิมกลับ
อย่าจูบพ่อนะ ซีลิมฉันพูด เจนหัวเราะ
ใช่พ่อตอบ ผมขออนุญาตพาแอนนาไปที่เวลส์กับผมในวันอีสเตอร์นะครับ
และฉันเจนพูด ฉันกำลังไปด้วย จำได้ไหม
ผมขอโทษ ผมลืมพ่อตอบ จริงด้วย พวกเราทั้งหมดจะไปเวลส์
พวกเราจะไปปีนเขาไทร์เฟนไหมครับ?ซีลิมถาม
แน่นอนฉันตอบก่อนพ่อจะพูด
เยี่ยมพ่อพูด และเขายิ้มให้ซีลิม
พวกเราบอกลาเจน เธอจะไปช้อปปิ้งอีกเมืองหนึ่ง
เจอกันประมาณห้าโมงเธอตอบ อย่าสายล่ะ ขอให้เป็นวันที่วิเศษ และระวังตัวด้วย ดีเร็ค
พวกเราเริ่มเดินขึ้นไปไทร์เฟน ฉันสามารถมองเห็นกำแพงหินอยู่เหนือศีรษะเรา ฉันรู้ว่ามันอันตราย แต่วันนี้หินไม่เปียก
มันกำลังดีฉันคิด ทุกอย่างไปด้วยดีในตอนแรก พวกเรามีเชือกออกจากกระเป๋า ซีลิมและฉันสวมหมวกกันน็อก แต่พ่อไม่ได้ใส่
พ่อไม่ต้องการหมวกกันน็อคเขาพูด พ่อโอเคไม่ใส่
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตอนนี้ลมแรงขึ้น พ่อไปคนแรก จากนั้นก็ฉันและซีลิม
พวกปีนหน้าผาใหญ่อย่างช้าๆ พ่ออยู่ใกล้กับยอด
พวกเราใกล้ถึงที่นั่นแล้ว!’ พ่อเรียกพวกเรา
จากนั้นมีลมแรงกะทันหันขนาดใหญ่ ฉันเงยหน้าฉันทันใดนั้นหินก็ตกลงมาจากยอดเขา
พ่อค่ะ!’ ฉันตะโกน
แต่พ่อไม่ได้ยินเสียงฉัน ก้อนหินกระแทกบนหัวของพ่อ เขาตกลง เชือกไปรัดตัวและฉันตกลงด้วย
ไม่มีอะไรอยู่ใต้ฉัน ฉันตกลงตกลง จากนั้นเชือกก็รัดตัวอีกครั้ง และฉันหยุด ฉันได้ยินเสียงของซีลิมจากไกลลิบ
ลูกโอเคนะ แอนนาพ่อเรียกฉัน พ่อมีเชือก มีเชือกเส้นใหญ่อยู่หน้าลูก ลูกเห็นมันไหม? แกว่งเชือกและจับมันไว้
ฉันแกว่งเชือกที่หน้าผา ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งที่สามฉันจับเชือกเส้นใหญ่กับมือขวา
เยี่ยม ตอนนี้ปีนลงหน้าผาเลย มันง่าย ลูกทำได้
ฉันปีนลงหน้าผาอย่างช้าๆ ตอนนี้ฉันเห็นพ่อ ตาของเขาปิดและพ่อไม่ขยับ พ่อยังมีชีวิตหรือเสียแล้วกันแน่?
ซีลิมปีนลงมาหาฉัน
เขาไม่เป็นอะไรหรอกเขาพูด คุณยังมีพ่อ
ซีลิมปีนลงจากหน้าผาไปหาพ่อ เขามองพ่ออย่างระมัดระวังเป็นเวลาหนึ่งถึงสองนาที จากนั้นเขาเงยหน้าและยิ้มและเรียกฉัน
เขายังมีชีวิต!’ ฉันร้องไห้ แต่ฉันดีใจมาก
ซีลิมพาพ่อกลับมาที่ฉัน ฉันเจอโทรศัพท์ของพ่อและฉันโทรหาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ จากนั้นซีลิมแบกพ่อไว้บนหลังของเขาและพวกเราเริ่มลงไปด้านล่างเขา ฉันคิดว่าเวลาผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่มันเป็นเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ฉันเหนื่อยและแขนรู้สึกสาหัส พวกเราเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สุดท้ายพวกเราได้ยินเสียงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เหนือหัวพวกเรา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้!
จากนั้นพวกเราได้ยินเสียงร้องไห้ มันคือเจน เธอวิ่งเข้ามาที่พวกเรา
นี่คือดีเร็คหรอ?เธอร้อง เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
ตอนนี้เขาจะดีขึ้นครับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ตอบ พวกเราจะส่งตัวเขาไปโรงพยาบาล
ไปกับเขาเถอะ เจนฉันพูด พ่อต้องการคุณ
เจนไม่พูดอะไร แต่เธอกอดฉัน จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้พาเธอขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์กับพ่อ พวกออกไปโรงพยาบาล
ซีลิมและฉันดูเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นซีลิมก็พูด
เจนและพ่อของคุณ---พวกเขารักกันใช่หรือไม่?
ใช่ พวกเขารักกันฉันตอบ ฉันยินดีกับพวกเขา
เรื่องของเราล่ะ?ฉันคิด พวกเราก็รักเหมือนกันไหม?ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรา
ฉันให้บางอย่างกับคุณซีลิมพูด ผมขอให้มันกับคุณตอนนี้ ผมคิดว่ามันเป็นเวลาดี
เขานำกล่องสีเขียวใบเล็กออกมาและให้มันChapter 1 วันแรกที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
รถประจำทางของมหาลัยอ๊อกฟอร์ดมาสาย ฉันมองที่พ่อ และเขามองมาที่ฉัน ฉันไม่ได้พูด ฉันสามารถพูดอะไรได้? มันเป็นสิ่งดีที่เจนอยู่ที่นี่
โทรหาพ่อ เมื่อลูกถึงมหาลัยแล้วนะ แอนนาพ่อพูด
ได้คะ พ่อ
เจนยิ้มและจับแขนของพ่อ ดีเร็ค แอนกำลังจะไปได้ดี เธอโตเป็นสาวแล้วตอนนี้
ผมรู้พ่อพูด แต่มีผู้คนไม่ดี ส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่น
พ่อ!’
รถประจำทางมาหลังจากสายประมาณสอบนาที พวกเราทั้งหมดบอกลากันและฉันขึ้นรถ ฉันนั่งลงและดูเจนกับพ่อที่กำลังยืนอยู่ที่นั่น กำลังยิ้มมาที่ฉัน ฉันชอบเจน เธอและพ่อเป็นเพื่อนที่ดี พวกเขาเจอกันที่ทำงาน แน่นอน นั่นเป็นเพราะแม่จากพวกเราไป แต่ฉันไม่ต้องการคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น
5 นาที่ต่อมา รถประจำทางออก ฉันต้องจากลาเจนและพ่อและบ้านหลังเก่า บนรถมันร้อนและฉันถอดเสื้อโค้ดตัวใหม่ออก มันเป็นของขวัญจากพ่อ สำหรับการปีนที่เวลส์ พวกเราสามารถไปปีนเขาอีกครั้งเมื่อคุณอยู่ที่อ๊อกฟอร์ดเขาพูด พวกเราต้องการกลับไปที่เวลส์อีกครั้งในเดือนหน้า
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถประจำทางและคิดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ฉันกำลังเป็นนักศึกษาที่ มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดฉันคิด แต่ฉันจะชอบมันหรือไม่?

วันแรกที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดน่าตื่นเต้น ทุกสิ่งใหม่ ฉันมีห้องใหม่ที่อาศันอยู่ ฉันซื้อหนังสือจำนวนมากและพบผู้คนหน้าใหม่จำนวนมาก มีผู้หญิงสองคนอยู่กับฉัน เพ็นนี่และแม็กด้า เพ็นนี่มาจาก แมนเชสเตอร์ และแม็กด้ามาจากเยอรมันนี ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

            ช่วงท้ายของวันแรก มีงานเต้นรำสำหรับนักศึกษาใหม่ เพ็นนี่ แม็กด้าและฉันเต้นกับผู้ชายที่นั่น แต่พวกเขาทั้งหมดยังหนุ่ม! ส่วนใหญ่เพ็นนี่ แม็กด้าและฉันจะเต้นด้วยกัน

            ที่นี่ร้อนจังเพ็นนี่พูด ไปดื่มกันเถอะ

ใช่แม็กด้าพูด ฉันกระหายน้ำพอดี

ตกลงฉันพูด ไปเถอะ

            มีคนจำนวนมากที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้า แต่ฉันดันไปข้างหน้า ชายหนุ่มที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้าเป็นคนสูงและผมดำ เขาดูดีฉันคิด จากนั้นเขามองมาที่ฉัน เขามีตาสีฟ้าที่สวย! จกนั้นเขายิ้ม

 

คุณต้องการรับอะไรครับ?เขาถาม เขาพูดจาไพเราะ แต่เขาไม่ใช่คนอังกฤษ เขาเป็นคนต่างถิ่น เขามาจากที่ไหนนะ?

เบียร์สองและโค้กหนึ่งคะฉันตอบ

เบียร์สองและโค้กหนึ่งครับเขาพูดและเขาให้เครื่องดื่มแก่ฉัน ทั้งหมดด3.40 ปอนด์เขายิ้มให้ฉัน

ฉันให้เงินแก่เขาและฉันเริ่มเอาเครื่องดื่มกลับไปที่เพ็นนี่และแม็กด้า

ให้ฉันช่วยคุณไหม?ใครบางคนถาม หญิงสาวตัวเล็กกับการยกเครื่องดื่มใหญ่ มันไม่ถูกต้อง !’

ฉันเงยหน้าและเห็นชายหนุ่มหน้าแดงที่อยู่ถัดจากฉันที่เคาท์เตอร์ในร้านเหล้า เขาดูเมา ฉันไม่ชอบคนเมา

ฉันโกรธแต่ฉันพูดอย่างเร็ว ฉันสามารถถือเครื่องดื่มของได้ โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ ขอบคุณมาก

คุณไม่เข้าใจผู้ชายคนนั้นตอบ ชายหนุ่มต้องช่วยหญิงสาวเสมอ ครั้งหนึ่งพ่อของฉันเคยบอกซีแบสเตียน ลูกชายเขาพูด --’

ตกลง ซีแบสเตียนฉันพูด ฉันไม่ได้สนใจพ่อของคุณหรือคุณ ฉันสามารถผ่านไปได้ไหม?

ฉันเริ่มเดินผ่านเขา แต่เขากางแขนออกเพื่อที่จะหยุดฉัน ฉันหยุด ฉันผลักแขนเขาออก น้ำโค้กหกไปที่เสื้อเชิ้ตของซีแบสเตียน

เธอมันผู้หญิงโง่เขาพูด ดูเสื้อสุดหล่อของฉัน!’ ซีแบสเตียนโกรธมาก เขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน แขนขวาของเขาชูขึ้น ทันใดนั้นฉันกลัว เขากำลังจะตบฉันฉันคิด

 ‘หยุดก่อนใครบางคนพูดอย่างรวดเร็ว มันคือผู้ชายใกล้เคาท์เตอร์ร้านเหล้า อย่าตบหญิงสาวคนนั้นนะ

แกพูดกับฉันหรอ?ซีแบสเตียนถาม หน้าของเขาแดงกว่าตอนแรก

ใช่ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มตอบ และฉันถามคุณการทำดีกับหญิงสาวคนนั้น ผู้ชายไม่ตบผู้หญิงในประเทศของฉัน

ประเทศของแก? และประเทศของแกคืออะไร?

ฉันมาจากบอสเนียชายเสิร์ฟเครื่องดื่มตอบโอ้! แกเป็นพวกอพยพซีแบสเตียนตอบ

ดี ฉันสามารถบอกบางอย่างกับแกได้ไหม? พวกเราไม่ต้องการพวกอพยพจำนวนมากเข้ามาในประเทศของเรา ขอบคุณมาก โอ้ ตำรวจจะรู้ไหมว่าแกอยู่ที่นี่? หรือแกเป็นพวกต่างด้าว

ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มไม่พูดอะไร

แกรู้อะไรไหม?ซีแบสเตียนถาม ฉันคิดว่าฉันจะโทรหาตำรวจ-----’

จากนั้นหญิงสาวเข้ามาหาที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้า เธอจับแขนของซีแบสเตียน

คุณอยู่นี่เธอพูด เร็วเข้า ซีแบสเตียนครัวซ์และมาเรียรอพวกเราอยู่ พวกเขาอยู่ที่โน่น โอ้ ซีแบสเตียน คุณไปทำอะไรกับเสื้อเชิ้ต?

หญิงสาวและซีแบสเตียนเริ่มเดินจากไป

ฉันบอกเธอเอง จินนี่ ฉันกำลังจะโทรหาตำรวจ ชายเสิร์ฟเครื่องดื่มคนนั้น ----’

อย่าโง่ ซิปปี้ มาถึงแล้วตอนนี้

จินนี่และซีแบสเตียนกลับไปที่เพื่อนของพวกเขา ฉันมองไปที่ชายเสิร์ฟเครื่องดื่ม

ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือฉันพูด

ไม่เป็นไรเขาตอบ

มันเป็นเรื่องจริงไหม?ฉันถาม คุณมาจากบอสเนียหรอ?

ใช่ครับ ผมมาจากซาราเยโวและผมชื่อซีลิม

 

 

 

 

 

 


Chapter 2 เรื่องของซีลิม

 

ซีลิมยิ้มมาที่ฉันอีกครั้ง จากนั้นเพ็นนี่และแม็กด้ามาจากเคาท์เตอร์ร้านเหล้า

เธอได้เครื่องดื่มหรือยัง?เพ็นนี่ถาม

ได้ ขอโทษนะฉันพูด มีบางคนผลักฉันและฉันทำโค้กหก

นี่ไงซีลิมพูด และเขาให้โค้กแก้วใหม่แก่ฉัน เขาวางกระดาษแผ่นเล็กบนมือฉันอย่างเร็วด้วย ฉันใส่กระดาษไว้ในกระเป๋าและส่งโค้กให้เพ็นนี่

พวกเรานั่งและดื่มเครื่องดื่มจนหมด เวลาต่อมา แม็กด้ามองนาฬิกาข้อมือของเธอ

ฉันขอไปก่อนนะเธอพูด ฉันเหนื่อยดังนั้นพวกเรากลับ

เมื่อฉันมาถึงบ้าน ฉันหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าและเปิดมัน มันมีเบอร์โทรศัพท์และถัดจากนั้นมีตัวหนังสือตัวใหญ่ว่า โทรหาฉัน --- ซีลิม

วันต่อมาฉันโทรหาซีลิม ฉันต้องการเจอเค้าอีกครั้ง ฉันต้องการรู้เกี่ยวกับเขามากกว่านี้

ฉันรู้บงอย่างเกี่ยวกับบอสเนีย แต่ฉันต้องการรู้อีก ทำไมเขาถึงอยู่บริเตน เขาเป็นพวกคนต่างด้าวใช่หรือไม่?

ฉันสนใจเรื่องของซีลิม แต่มันมีบางอย่างที่มากกว่านั้น ฉันจำดวงตาสีฟ้าและรอยยิ้มที่อ่อนโยนได้

เมื่อคิดเกี่ยวกับซีลิม ฉันรู้สึกตื่นเต้น!

พวกเราเจอกันตอนบ่ายโมงและเดินผ่านแม่น้ำ มันเป็นวันสดใส พวกเรามาที่ร้านกาแฟถัดไปจากแม่น้ำ

พวกเราดื่มกาแฟและนั่งคุยกัน ฉันถามเขาเกี่ยวกับบอสเนีย

แม่และพ่อของคุณอยู่ที่ซาราเยโวหรอ?

ซีลิมปิดตา แม่และพ่อของผมเสียแล้วครับเขาตอบ พวกเขาเสียชีวิตบนถนนของซาราเยโว วันหนึ่งพวกเขาไปที่ร้านขายของที่ซื้อของกิน มีระเบิดอยู่บนถนนและมันก็ฆ่าพวกเขา

โอ้ ซีลิม ฉันเสียใจด้วยนะฉันพูด ฉันควรจะพูดอะไรดี?

ผมอยู่ที่บอสเนียเพื่อหางาน แต่ไม่มีงานในซายาเยโว และที่นั่นมันอันตรายสำหรับผม ผู้คนต้องการฆ่าผม ไม่มีอะไรสำหรับผมในบอสเนีย ผมรู้ภาษาอังกฤษจากโรงเรียน ดังนั้นผมจึงไปบริเตนเขาหัวเราะ ผมให้เงินจำนวนมาแก่เพื่อนเพื่อพาผมมาที่นี่ แต่ตอนนี้ที่นี่บริเตน พวกเขาบอก กลับบอสเนียซะ” ’

แต่มันอันตรายสำหรับคุณถ้าอยู่บอสเนีย คุณพูดอย่างนั้น

ใช่ ผมบอกำวกเขาแต่พวกเขาบอกว่า คุณอยู่ในบริเตน เพราะว่าคุณต้องการทำงานที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่าบอสเนียอันตรายดังนั้นตอนนี้ผมจึงเป็นคนต่างด้าว และผมก็กลัวตำรวจ

แล้วคุณจะหางานที่นี่อย่างไร?

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหางาน และงานก็ไม่ดี เมื่อมีงานที่บอสเนีย ผมทำงานคอมพิวเตอร์ ที่นี่ผมทำงานในร้านเหล้าและร้านกาแฟ ผมบอกว่า ผมเป็นกรีกชาวกรีกสามารถทำงานที่นี่ไดเ แต่ไม่ใชคนบอสเนีย ดังนั้นในบริเตน ผมจึงเป็นคนกรีก

ซีลิมหัวเราะอีกครั้ง แต่มันไม่ได้เป็นหัวเราะแบบมีความสุข พวกเราดื่มกาแฟและดูแม่น้ำ

คุณคิดถึงบอสเนียไหม?ฉันถาม

บางครั้ง ฉันคิดถึงภูเขา ในบอสเนียทุกวันเสาร์อาทิตย์ผมไปภูเขา ผมรักการปีนเขา

แต่ที่นี่ไม่มีภูเขาซีลิมพูด

ไม่ในอ๊อกฟอร์ด แต่มีภูเขาที่เวลส์ มันไม่ไกลจากที่นี่ พ่อของฉันและฉันจะไปปีนเขาที่เวลส์เดือนหน้า

จากนั้นฉันคิดเกี่ยวกับบางอย่าง

 ‘ซีลิม ฟังนะฉันพูด มีมหาวิทยาลัยสอนปีนกำแพงมันสนุกดีนะ สัปดาห์หน้าเราไปปีนกันเถอะ

ดังนั้นสัปดาห์ถัดมา พวกเราเจอกันที่มหาวิทยาลัยการปีนกำแพง ซีลิมเงยดูมัน

มันใหม่สำหรับฉันเขาพูด พวกเราไม่เคยปีนกำแพงในบอสเนีย

มันง่ายฉันพูด ดูฉันนะฉันปีนหนึ่งในเส้นทางขึ้นที่ง่ายบนกำแพง ซีลิมดูฉัน จากนั้นเขาทำตาม

เขาเก่ง ฉันสามารถเห็น เขาเคลื่อนไหวขึ้นอย่างง่าย เมื่อเขาลงมา เขายิ้ม

ผมชอบมันนะเขาพูด คุณพูดถูก มันสนุกแต่มันง่ายมาก ไปลองลู่ที่แตกต่างกันเถอะ

ดังนั้นพวกเราลองเส้นทางที่ยาวกว่า ตอนนี้พวกเรามีเชือก ฉันไปคนแรก ซีลิมตามหลังฉัน ฉันเป็นนักปีนที่ดี แต่ซีลิมดีกว่าฉัน

เมื่อพวกเราเสร็จ ซีลิมพูดว่า มันดี เราสามารถเล่นอีกครั้งได้ไหม? อาจจะเป็นอาทิตย์หน้า?

ฉันมองเขาและยิ้มอย่างมีความสุข ฉันชอบมันฉันพูด

 

 

 

 

 


Chapter 3  เกี่ยวกับพ่อของฉัน



พ่อโทรหาฉันเมื่อตอนเย็นวันนั้น

สบายดีไหม?พ่อถาม เป็นอย่างไรบ้าง?

ดีค่ะ พ่อฉันตอบ หนูกำลังมีช่วงเวลาที่วิเศษที่นี่

อย่าลืมมาเยี่ยมพวกเราที่เวลส์นะ

ไม่ได้คะ ไม่แน่นอน พ่อก็รู้ หนูเรียนมหาวิทยาลัยการปีนกำแพงวันนี้ และมันสนุกดี พวกเรามีช่วงเวลาที่ดีค่ะ

ลูกไปกับหนึ่งในเพื่อนของลูกหรอ?

ก็ใช่คะ พ่อค่ะ หนูต้องไปก่อนนะค่ะ เพ็นนี่อยู่ที่นี่และเธอกำลังรอหนูอยู่ พวกเราจะไปทำอาหารเย็นคืนนี้กัน เราคุยกันใหม่อาทิตย์หน้านะค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ

แน่นอน เพ็นนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ฉันไม่สามารถบอกพ่อเกี่ยวกับซีลิม ทำไมหรอ?  งั้นเพื่อให้คุณเข้าใจ ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องบอกคุณบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของฉัน

เขาชื่อว่าดีเร็ค ดีเร็ค ปาล์มเมอร์ เขาทำงานอยู่ในโรงงาน มันเป็นโรงงานสวีเดนและมันผลิตโทรศัพท์มือถือ ลูนเบิร์ก บางทีคุณอาจจะรู้จักชื่อ มันเป็นโรงงานใหญ่และมีคนจำนวนมากทำงานที่นี่ พ่อเป็นผู้จัดการในโรงงาน ในความจริงเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย เขาทำงานเก่ง แต่เมื่อปีที่ผ่านมาการขายไม่ค่อยดี พ่อบอกฉันเกี่ยวกับมันในวันหนึ่ง

นี่แหละพ่อพูด ในบริเตนมากกว่าร้อยละ70 ของคนมีโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นตอนนี้พวกเรากำลังขายเพียงแค่ร้อยละ30ของคน พวกเราจะทำอะไรเมื่อทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ?

เพราะเหตุนี้พ่อจึงกังวลเกี่ยวกับงาน แต่นั่นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนั้น

ลูนเบิร์กเป็นบริษัทที่ใหญ่ มันมีผู้จัดการทั้งชาวอังกฤษและชาวสวีเดน หนึ่งในชาวสวีเดนเรียกชื่อว่า ลาร์

เขาและพ่อกลายเป็นเพื่อน เพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาไปข้างนอกเพื่อดื่มด้วยกันบ่อยๆ จากนั้นลาร์เริ่มกลับมาที่บ้านของพวกเราสำหรับมื้อเย็น แม่ พ่อและลาร์ทำสิ่งต่างๆด้วยกัน

แม่---จิลคือชื่อเธอ --- ไม่สนใจเรื่องการปีนเขา เธอชอบไปดูหนัง ลาร์ก็ชอบเหมือกัน ดังนั้นแม่กับลาร์เริ่มไปดูหนังด้วยกัน พวกเขามักจะออกไปดูหนังด้วยกันทุกวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่พ่อและฉันจะไปปีนเขา

ฉันไม่เคยสามารถลืมสัปดาห์หนึ่ง --- สัปดาห์นั้น เมื่อทุกอย่างผิดปกติ พ่อและฉันกลับมาในคืนวันอาทิตย์เหมือนปกติ มันดึก และบ้านก็มืด แม่ไม่อยู่ที่นี่ ฉันดูชั้นล่าง พ่อดูชั้นบน เพื่อหาแม่ ฉันรู้สึกเป็นห่วง แม่อยู่ไหนนะ?  บางทีแม่อาจจะออกไปดื่มกับลาร์ก็ได้ฉันคิด

เมื่อฉันได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านบน ฉันขึ้นไปและเปิดประตูของห้องแม่และพ่อ พ่อยู่บนเตียงและหันหลังให้ฉัน ฉันเข้าไปที่พ่อ เมื่อเขาเงยหน้ามาที่ฉัน ตาของเขาเป็นสีแดง เขามีจดหมายในมือ

เกิดอะไรขึ้นค่ะ พ่อ? มันคืออะไร?

พ่อไม่พูดอะไร แต่ให้จดหมายแก่ฉัน ฉันไม่ต้องการอ่านมัน

แม่ไปกับลาร์พ่อบอก แม่รักเขาเธอบอก

 ‘ลูกรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?

ไม่ค่ะ พ่อ ไม่แน่นอน

ฉันจะทำอะไรถ้าไม่มีแม่? ฉันรู้สึกกลัว ฉันเดินไปที่พ่อและกอดเขา พวกเราร้องหนักทั้งคืน

แม่ไม่กลับมา ลาร์ได้งานที่สวีเดนและแม่ก็ไปกับเขา พ่อเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนแรก จากนั้นเขาก็เริ่มโกรธ เขาโกรธแม่กับลาร์ ลาร์คือเพื่อนของเขา เขาคิด  เพื่อนสามารถทำคุณได้อย่างไร?

จากนั้นเขาเริ่มหาคำตอบจากคำถามนั้น มันเป็นเพราะว่าลาร์เป็นคนต่างถิ่น เขาพูด คนอังกฤษไม่ทำกับเพื่อนของเขา แต่คนต่างถิ่นเท่านั้นที่ทำ

แน่นอน นั่นมันไม่ใช่ความจริง คนอังกฤษไม่ได้แตกต่างไปจากคนประเทศอื่น ฉันบอกพ่อครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ฉันไม่สามารถทำให้เค้าเปลี่ยนคามคิดได้

หลังจากที่แม่จากไป เขาเกลียดคนต่างถิ่น และเขาเกลียดพวกคนอพยพมากที่สุด

พวกเขากลับมาที่นี่และพวกเขาเอางานของพวกเราไปเขาพูด

จากนั้นพวกเขาก็เอาผู้หญิงของเราไปด้วย ฉันขอทั้งหมดกลับบ้าน

บางทีตอนนี้พ่อกำลังจะเปลี่ยนไป  เขาคบกับเจน เธอมาทำงานที่ลูนเบิร์กได้หนึ่งเดือน หลังจากที่แม่จากพวกเราไป ฉันคิดว่าเจนดีสำหรับพ่อ เธอต่างจากแม่แต่เธอดีกับฉัน ฉันสามารถคุยกับเจน แต่ไม่สามารถคุยกับพ่อได้ และฉันก็ไม่ต้องการบอกเขาเกี่ยวกับซีลิม


 


 

 

 

 

                                     Chapter 4 การขึ้นเขาของฉันในวันหยุดสัปดาห์

 

ฉันเห็นซีลิมมากในเดือนหน้าหรือสองเดือน ฉันชอบเขามาก เขาดูดี แต่เขามีมากกว่าดูดี เขาอ่อนโยน ภาษาอังกฤษของเขามักไม่ค่อยถูก แต่เขาอยู่งายและพูดง่าย แต่วันหนึ่ง เมื่อพวกเราเจอกัน เขาโกรธ เขามาพร้อมกับจดหมาย

ดูนี่เขาพูด ผมต้องไป ตอนนี้ผมต้องออกจากอังกฤษ ผมต้องกลับไปบอสเนีย

แต่ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?

มีบางคนบอกพวกเขาเกี่ยวกับผม พวกเขาเห็นผมทำงานในร้านกาแฟ เขาไม่ใช่คนกรีกพวกเขาพูด เขาเป็นพวกต่างด้าว” ’

เขาหันมาที่ฉัน ทำไมพวกเขาเกลียดผม?เขาถาม ผมไม่เข้าใจ ผมไม่ต้องการเอาเงินจากประเทศนี้ ผมไม่ต้องการบางอย่างสำหรับไม่มีอะไร ผมต้องการแค่อยู่ที่นี่และทำงาน ผมเป็นผู้ชาย ผมรู้สึกถึงความคิดหรือคำพูด ผมมีหัวใจ ทำไมคนอังกฤษถึงกลัวผม?

ฉันไม่รู้ฉันตอบ คนอังกฤษบางคนก็ไม่ชอบคนต่างถิ่น คุณแตกต่างจากพวกเขา และพวกเขาไม่ชอบคนที่แตกต่าง อย่าคิดเกี่ยวกับพวกเขาเลย ซีลืม คิดเกี่ยวกับฉันสิ ฉันชอบคุณนะ

ฉันจูบเขา แต่เขาไม่ได้จูบฉันกลับ เขาโกรธมาก

วันต่อมา ซีลิมโกรธอีกแล้ว เมื่อฉันบอกเกี่ยวกับการปีนเขาในวันหยุดสุดสัปดาห์กับพ่อ

ได้โปรด อยู่กับผมในสัปดาห์นี้เถอะนะ เขาขอร้อง

ฉันขอโทษนะ ซีลิม แต่พ่อและฉันวานแผนไปเที่ยวที่เวลส์ไว้นานแล้ว

คุณโชคดีที่มีพ่อซีลิมพูด ตอนนี้เขาเศร้า พ่อของผมเสียชีวิต เขาตายพร้อมกับแม่เมื่อห้าสัปดาห์ที่แล้ว มันคือวันที่ 26 เดือนตุลาคม วันเสาร์

โอ้ ซีลิม ฉันเสียใจ ฉันไม่ร็เกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันอยากจะอยู่กับคุณ แต่ฉันต้องไปกับพ่อ คุณไม่เข้าใจหรอ?

เพราะฉะนั้นคุณจะทิ้งผมที่นี่ เขาพูด

ฉันไม่พูดอะไร และซีลิมนั่งและมองฉัน เศร้าและโกรธ และไม่พูดอะไร สุดท้ายพวกเราบอกลากัน และฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกในสัปดาห์นั้น

พ่อมารับฉันที่มหาวิทยาลัยในวันศุกร์ตอนบ่าย และพวกเราขับรถไปที่เวลส์ พ่อมีความสุขและตื่นเต้น พ่อมักจะมีความสุขเสมอ เมื่อเขาไปปีนเขา ในรถพวกเราคุยเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์

พ่อต้องการปีนเขาไทร์เฟนเขาตอบ

ฉันไม่ตอบ  เขาไทร์เฟนไม่ใช่ภูเขาลูกใหญ่ แต่มันไม่ง่ายที่จะปีน

พ่อมองมาที่ฉัน

พวกเราทำได้ แอนนาพ่อพูด

หนูไม่ทราบค่ะ จะคอยดูค่ะ พ่อฉันตอบ

รุ่งเช้าต่อมา มันอบอุ่นและดวงอาทิตย์ก็ร้อน

แต่ทันใดนั้นดวงอาทิตย์หายเข้ากลีบเมฆและท้องฟ้าก็มืดขึ้นและมืดขึ้น

ขณะที่พวกเราเดินข้ามทุ่งนาทุ่งไร่ไปเขาไทร์เฟน ฝนเริ่มตก มีหินอันตรายบนเขาไทร์เฟน และตอนนี้พวกเราเปียก พ่อไปก่อน เท้าของเขาลื่นหินเปียกและเขาหยุด ตอนนี้ฉันปีนขึ้นไปด้านบนผ่านพ่อ ฉันสามารถเห็นเส้นทางด้านบนภูเขา แต่มันจะไม่ง่าย จากนั้นฉันมองลงไป พ่อมีเชือกในมือ แต่เขาเหนื่อย เขาสามารถปีนขึ้นมาได้ไหม? ฉันไม่คิดว่าเขาทำได้ ฉันขอร้องพ่อ

พ่อไม่สามารถทำมันได้ พ่อกำลังจะตกลง

พ่อและฉันนั่งที่ใต้ก้อนหิน พวกเรากินแซนวิชและดื่มกาแฟ ฝนแย่กว่าเมื่อก่อน

ปีนเขาไทร์เฟนวันอื่นเถอะค่ะ พ่อฉันพูด

ตกลง พวกเราสามารถกลับมาที่นี่อีกครั้ง บางทีช่วงเทศกาลอีสเตอร์ สภาพอากาศอาจจะดีกว่านี้ ลูกคิดว่ายังไง?

ตกลงค่ะ ค่อยมาช่วงเทศกาลอีสเตอร์กันฉันพูด

พวกเราคุยกัน พ่อมีความสุข ความสุขกว่าปกติ ฉันคิด บางทีมันอาจจะเป็นเวลาดีที่จะบอกเขาเกี่ยวกับซีลิม

พ่อค่ะ………’ฉันเริ่ม

ว่าไง แอนนา

มีชายหนุ่มที่มหาวิทยาลัย…….’ ไม่ มันไม่ถูก ฉันเริ่มอีกรอบ

พ่อค่ะ หนูมีเพื่อนที่มหิทยาลัยฉันพูด ผู้ชาย….’

แฟน!  พ่อต้องพูดมันเร็วไปพ่อตอบและยิ้ม เล่าให้พ่อฟังเกี่ยวกับเขาหน่อย

คือ เขามีผมสีดำและตาสีฟ้า…’

พ่อหัวเราะ ใช่ ใช่เลย ทั้งหมดมันน่าสนใจ แต่บอกพ่อหน่อย เขาเป็นคนดีไหม?

ค่ะพ่อ เราเป็นคนดีและอ่อนโยน โอ้และเขาเป็นนักปีนเขาด้วยนะค่ะ เขาปีนเขาเก่ง พวกเราไปเรียนปีนกำแพลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เยี่ยม เยี่ยม บางทีพวกเราสามารถปีนเขาด้วยกัน เขาชื่ออะไรล่ะ?

‘…..แซมฉันตอบ เขาชื่อแซม

คือ ฉันพูดอะไรออกไป? ซีลิมไม่ใช่ชื่อคนอังกฤษ หลังจากทั้งหมดและคุณก็รู้เกี่ยวกับพ่อของฉันและคนต่างถิ่น!




 



           

Chapter 5 กลับบ้านในวันคริสต์มาส


ในสัปดาห์ถัดมา ฉันลืมเกี่ยวกับซีลิม เกี่ยวกับพ่อ และเกี่ยวกับการปีนเขา ฉันอยู่ในห้องและฉันทำการบ้านหนัก ฉันมีสอบในเดือนธันวาคม และฉันก็กังวงเกี่ยวกับมัน ฉันต้องการทำมันให้ดี
จากนั้นวันหนึ่ง ซีลิมมาเจอฉัน เขากระวนกระวายใจมาก
พวกเขาส่งจดหมายฉบับใหม่มาให้ผมเขาบอก ตอนนี้ผมต้องไปจากบริเตนภายในสองเดือน ผมไม่สามารถกลับบอสเนีย ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง?
ซีลิมฉันเรียก มีองค์กรในอ๊อกฟอร์ดเรียกว่าองค์กรที่ช่วยเหลือผู้อพยพ พวกเขาช่วยเหลือผู้คนเหมือนคุณ แม็กด้าบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอให้เบอร์โทรศัพท์แก่ฉัน คุณต้องการมันไหม?
พวกเราสามารถช่วยฉันได้หรอ?
ได้ แน่นอน พวกเขาช่วย ซีลิม พวกเราทั้งหมดไม่ได้เกลียดพวกอพยพในบริเตน
คุณไม่เกลียดหรอ?
ซีลิม ฉันไม่ต้องการเถียงกับคุณนะฉันพูด นี่เบอร์โทรศัพท์ ให้พวกเขาโทรซะ
การสอบของฉันไม่ได้ง่าย แต่ฉันตอบคำถามมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงมีความสุข แต่ฉันเหนื่อยมาก ฉันกลับบ้านสำหรับวันคริสต์มาส
พ่อไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเจอฉันที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร แต่เจนมาพบฉันและพวกเราก็กอดกัน
ทำไมพ่อไม่อยู่ที่นี่ด้วยล่ะค่ะ? เกิดอะไรขึ้นหรอ?
มันคือโรงงาน แอนนา พวกเขาจะปิดมัน ตอนนี้ลูนเบิร์กจะผลิตโทรศัพท์ที่สวีเดน พ่อของเธอโกรธมาก มันเป็นพวกต่างถิ่นอีกแล้วเขาพูด
เขามักจะพูดแบบนั้นเสมอ มันเป็นเรื่องเหลวไหล!’
อย่าโกรธพ่อเธอเลย แอนนา พยายามทำดีกับเขา เขารักเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ได้ง่ายสำหรับเขา
หนูรู้ค่ะ เจน แต่… ’ และจากนั้นฉันเริ่มร้องไห้และฉันไม่สามารถหยุดมันได้
เป็นอะไร? แอนนา คุณโทรหาหนูนะค่ะและฉันบอกเธอเกี่ยวกับซีลิม มันง่ายที่จะคุยกับเจน
เอาล่ะ แอนนาเธอพูด ฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพ่อของเธอ อย่าพูดอะไรกับเขาในตอนนี้เธอพูดต่อ มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาเป็นกังวลมากเกี่ยวกับงาน
พวกเราไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับโรงงานได้เลยหรอค่ะ?ฉันถาม
พวกเราไม่สามารถหยุดการปิดโรงงานได้หรอ? พวกเราไม่สามารถทำให้ลูนเบิร์กเปลี่ยนแผนหรอค่ะ?
ฉันพูดกับพ่อเธอแล้วแต่เขาไม่ฟัง ไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้เขาบอกฉัน แต่ฉันคิดว่าพวกเราสามารถทำบางอย่างเกี่ยวกับมันได้ และฉันจะพยายามเจนพูด
ฉันพยายามทำดีกับพ่อ ในวันแรกหรือวันที่สอง เขาสบายดี แต่ในวันคริสต์มาส พวกเราโต้เถียงกัน พ่อเริ่มพูดเกี่ยวกับโรงงานอีกแล้ว
นี่มันเป็นพวกอพยพเขาพูด
พวกเขามาที่และพวกเขาเอางานของพวกเราไป และจากนั้นคนอังกฤษก็ไม่สามารถหางานทำได้
พ่อค่ะ นั่นเป็นเรื่องเหลวไหล พวกเราต้องการคนอพยพมาทำงานที่นี่ พวกเขาทำงานหนัก พวกเขาทำงานสกปรก พ่อก็รู้ ฉันชอบพวกอพยพ หนูคิดว่าพวกเรานำสีสันและชีวิตมาให้ประเทศนี้
โอ้! ลูกชอบพวกอพยพหรอ? บางทีลูกอาจจะมีเพื่อนที่เป็นพวกอพยพในอ๊อกฟอร์ดใช่ไหม?
ดีเร็ค….’ เจนพูด
ใช่ค่ะ หนูมี!’ ฉันพูดต่ออย่างโกรธ หนูบอกพ่อเกี่ยวกับแฟนของหนู พ่อจำได้ไหมค่ะ? เอาล่ะ เขาไม่ได้ชื่อแซม แต่มันคือซีลิม และเขาก็มาจากบอสเนีย ใช่ค่ะพ่อ แฟนของหนูเป็นพวกอพยพ และหนูรักเขา แล้วพ่อจะทำอย่างไร?
หน้าของพ่อซีด เขาออกจากห้องอย่างเร็ว เจนตามเข้าไป
เย็นวันนั้น ฉันโทรหาซีลิม สุขสันต์วันคริสต์มาสเขาพูดกับฉัน
โอ้! ซีลิม ฉันกำลังมีวันคริสต์มาสที่แย่มากฉันบอก พ่อและฉันเถียงกัน
พวกคุณเถียงกันเรื่องอะไรล่ะ?เขาถาม
อ๋อ ไม่มีอะไรสำคัญหรอกฉันตอบ แล้วคุณล่ะ? วันคริสต์มาสเยี่ยมไหม?
ยอดเยี่ยมเลย แอนนาเขาตอบ ผมมีความสุขมาก พวกเขาอนุญาตให้ผมอยู่ที่นี่สามเดือนหรือมากกว่านั้น องค์การช่วยเหลือผู้อพยพจะช่วยผม พวกเขาบอกผมในวันจันทร์ ผมพยายามโทรและโทรหาคุณก่อน
ซีลิม มันวิเศษไปเลย ฉันยินดีกับคุณด้วยนะ
แอนนา ผมรักคุณนะ
ฉันก็รักคุฯเหมือนกัน ซีลิม และตอนนี้ฉันต้องการอยู่กับคุณ
สองวันต่อมา ฉันออกจากบ้านและกลับอ๊อกฟอร์ด
ไม่ช้าฉันเจอห้องในบ้าน สำหรับซีลิมและฉัน เพื่อที่จะเช่าอยู่
พวกเราโชคดี เพื่อนของแม็กด้าย้ายออกจากอ๊อกฟอร์ด เมื่อวันขึ้นปีใหม่ และพวกเราก็ย้ายเข้ามาที่ห้อง
พวกเรามีความสุขมาก ทุกวันฉันไปมหาวิทยาลัยและเขาไปทำงานที่ร้านกาแฟ พวกเราไม่มีเงินมาก แต่มันก็โอเค พวกเรามีความรัก
ฉันโทรไปที่บ้านเพื่อบอกพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่เคยอยู่ที่นี่ เมื่อฉันโทร
บางทีเขาไม่ต้องการคุยกับฉัน แต่ฉันบอกเจนเกี่ยวกับฉันและซีลิมแล้ว และเธอก็ยินดีสำหรับเรา






                                                   Chapter 6 มีความรัก


ฉันไม่ได้ยินเสียงพ่อมาหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นวันศุกร์ เจนโทรมาและเธอกับฉันก็คุยกัน เช้าถัดมากพ่อและเจนมาเจอพวกเราที่อ๊อกฟอร์ด ซีลิมเปิดประตูให้พวกเขา
พ่อไม่ค่อยมีความสุขที่เจอซีลิม แต่เจนยิ้มให้เขาและจูบฉัน
ฉันเชิญพวกเขาเข้าด้านใน แลพพวกเรานั่งลง ฉังชงกาแฟและจากนั้นพวกเราคุยกัน เจนคุยก่อน
พวกเรามีบางอย่างที่วิเศษจะบอกพวกคุณ มันเกี่ยวกับโรงงานลูนเบิร์ก มันจะไม่ปิดแล้วตอนนี้
ขอบคุณนะ ที่รักพ่อพูด บอกพวกเขาเกี่ยวกับมันเถอะ เจน
เอาล่ะเจนพูด ฉันมีเพื่อนที่เป็นหัวหน้าบริษัทของฮายาชิ บริษัทโทรศัพท์ญี่ปุ่น เธอบอกฉันว่า ฮายาชิต้องการเปิดโรงงานใหม่ที่ยุโรป ดังนั้นฉันจึงบอกเธอเกี่ยวกับโรงงานลูนเบิร์ก พวกเขาซื้อโรงงานในเดือนเดือนมา ----และคนงานทั้งหมดสามารถอยู่ต่อได้
มันยอดเยี่ยมค่ะ!’ ฉันพูด มันไม่ใช่ซีลิมหรอ?
มีบางอย่างที่มากกว่านั้น เจนพูด ดีเร็คต้องการพูดบางอย่างกับซีลิม พูดเลย ดีเร็ค
โอเคพ่อตอบ เขาพูดอย่างเร็ว ฟังนะ ซีลิม ฉันพูดสิ่งที่โง่ๆเกี่ยวกับคนต่างถิ่นและพวกอพยพ ฉันขอโทษ แต่ตอนนี้ฉันต้องการให้พวกเราเป็นเพื่อนกัน
ตกลงครับซีลิมตอบ เธอระกแอนนาและฉันก็รักเธอเหมือนกัน มันเป็นสิ่งดีสำหรับพวกเราที่จะเป็นเพื่อนกัน
ซีลิมลุกขึ้นยินและกอดพ่อ หน้าของพ่อแดง แต่หลังจากนั้นเขายิ้มและกอดซีลิมกลับ
อย่าจูบพ่อนะ ซีลิมฉันพูด เจนหัวเราะ
ใช่พ่อตอบ ผมขออนุญาตพาแอนนาไปที่เวลส์กับผมในวันอีสเตอร์นะครับ
และฉันเจนพูด ฉันกำลังไปด้วย จำได้ไหม
ผมขอโทษ ผมลืมพ่อตอบ จริงด้วย พวกเราทั้งหมดจะไปเวลส์
พวกเราจะไปปีนเขาไทร์เฟนไหมครับ?ซีลิมถาม
แน่นอนฉันตอบก่อนพ่อจะพูด
เยี่ยมพ่อพูด และเขายิ้มให้ซีลิม
พวกเราบอกลาเจน เธอจะไปช้อปปิ้งอีกเมืองหนึ่ง
เจอกันประมาณห้าโมงเธอตอบ อย่าสายล่ะ ขอให้เป็นวันที่วิเศษ และระวังตัวด้วย ดีเร็ค
พวกเราเริ่มเดินขึ้นไปไทร์เฟน ฉันสามารถมองเห็นกำแพงหินอยู่เหนือศีรษะเรา ฉันรู้ว่ามันอันตราย แต่วันนี้หินไม่เปียก
มันกำลังดีฉันคิด ทุกอย่างไปด้วยดีในตอนแรก พวกเรามีเชือกออกจากกระเป๋า ซีลิมและฉันสวมหมวกกันน็อก แต่พ่อไม่ได้ใส่
พ่อไม่ต้องการหมวกกันน็อคเขาพูด พ่อโอเคไม่ใส่
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตอนนี้ลมแรงขึ้น พ่อไปคนแรก จากนั้นก็ฉันและซีลิม
พวกปีนหน้าผาใหญ่อย่างช้าๆ พ่ออยู่ใกล้กับยอด
พวกเราใกล้ถึงที่นั่นแล้ว!’ พ่อเรียกพวกเรา
จากนั้นมีลมแรงกะทันหันขนาดใหญ่ ฉันเงยหน้าฉันทันใดนั้นหินก็ตกลงมาจากยอดเขา
พ่อค่ะ!’ ฉันตะโกน
แต่พ่อไม่ได้ยินเสียงฉัน ก้อนหินกระแทกบนหัวของพ่อ เขาตกลง เชือกไปรัดตัวและฉันตกลงด้วย
ไม่มีอะไรอยู่ใต้ฉัน ฉันตกลงตกลง จากนั้นเชือกก็รัดตัวอีกครั้ง และฉันหยุด ฉันได้ยินเสียงของซีลิมจากไกลลิบ
ลูกโอเคนะ แอนนาพ่อเรียกฉัน พ่อมีเชือก มีเชือกเส้นใหญ่อยู่หน้าลูก ลูกเห็นมันไหม? แกว่งเชือกและจับมันไว้
ฉันแกว่งเชือกที่หน้าผา ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งที่สามฉันจับเชือกเส้นใหญ่กับมือขวา
เยี่ยม ตอนนี้ปีนลงหน้าผาเลย มันง่าย ลูกทำได้
ฉันปีนลงหน้าผาอย่างช้าๆ ตอนนี้ฉันเห็นพ่อ ตาของเขาปิดและพ่อไม่ขยับ พ่อยังมีชีวิตหรือเสียแล้วกันแน่?
ซีลิมปีนลงมาหาฉัน
เขาไม่เป็นอะไรหรอกเขาพูด คุณยังมีพ่อ
ซีลิมปีนลงจากหน้าผาไปหาพ่อ เขามองพ่ออย่างระมัดระวังเป็นเวลาหนึ่งถึงสองนาที จากนั้นเขาเงยหน้าและยิ้มและเรียกฉัน
เขายังมีชีวิต!’ ฉันร้องไห้ แต่ฉันดีใจมาก
ซีลิมพาพ่อกลับมาที่ฉัน ฉันเจอโทรศัพท์ของพ่อและฉันโทรหาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ จากนั้นซีลิมแบกพ่อไว้บนหลังของเขาและพวกเราเริ่มลงไปด้านล่างเขา ฉันคิดว่าเวลาผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่มันเป็นเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ฉันเหนื่อยและแขนรู้สึกสาหัส พวกเราเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สุดท้ายพวกเราได้ยินเสียงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เหนือหัวพวกเรา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้!
จากนั้นพวกเราได้ยินเสียงร้องไห้ มันคือเจน เธอวิ่งเข้ามาที่พวกเรา
นี่คือดีเร็คหรอ?เธอร้อง เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
ตอนนี้เขาจะดีขึ้นครับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ตอบ พวกเราจะส่งตัวเขาไปโรงพยาบาล
ไปกับเขาเถอะ เจนฉันพูด พ่อต้องการคุณ
เจนไม่พูดอะไร แต่เธอกอดฉัน จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้พาเธอขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์กับพ่อ พวกออกไปโรงพยาบาล
ซีลิมและฉันดูเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นซีลิมก็พูด
เจนและพ่อของคุณ---พวกเขารักกันใช่หรือไม่?
ใช่ พวกเขารักกันฉันตอบ ฉันยินดีกับพวกเขา
เรื่องของเราล่ะ?ฉันคิด พวกเราก็รักเหมือนกันไหม?ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรา
ฉันให้บางอย่างกับคุณซีลิมพูด ผมขอให้มันกับคุณตอนนี้ ผมคิดว่ามันเป็นเวลาดี
เขานำกล่องสีเขียวใบเล็กออกมาและให้มันกับฉัน
เปิดมันสิเขาพูด
ในกล่องมีแหวนสวย
มันมาจากบอสเนียนะซีลิมพูด มันเป็นแหวนของแม่ผม พ่อให้แม่เมื่อหลายปีมาแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน ตอนนี้พวกเขาเสียแล้ว วันนี้ผมจึงให้มันกับคุณ แอนนาที่รัก มันมาจากผม มาจากหัวใจ
ฉันสวมแหวนและสวมมันที่นิ้วที่สามของมือซ้าย
โอ้ ซีลิม มันงดงามฉันพูด ขอบคุณนะฉันจูบเขาและจับมือเขา
เราลงไปด้านล่างกันเถอะฉันพูด
เปิดมันสิเขาพูด
ในกล่องมีแหวนสวย
มันมาจากบอสเนียนะซีลิมพูด มันเป็นแหวนของแม่ผม พ่อให้แม่เมื่อหลายปีมาแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน ตอนนี้พวกเขาเสียแล้ว วันนี้ผมจึงให้มันกับคุณ แอนนาที่รัก มันมาจากผม มาจากหัวใจ
ฉันสวมแหวนและสวมมันที่นิ้วที่สามของมือซ้าย
โอ้ ซีลิม มันงดงามฉันพูด ขอบคุณนะฉันจูบเขาและจับมือเขา
เราลงไปด้านล่างกันเถอะฉันพูด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น