วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Housemates By Alison Watts




Housemates By Alison Watts





From the heart




                                                From the heart




การแปลข่าว




                                      การแปลข่าว


                ข่าว จะประกอบด้วย หัวข่าว และตัวข่าว ซึ่งหัวข่าวจะเปรียบได้กับชื่อหัวข้อ หรือชื่อเรื่องของงานเขียนอื่นๆ ส่วนตัวข่าวมาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ประกอบด้วยเนื้อข่าวโดยย่อ และที่มาของข่าว โดยทั่วไปมักจะอยู่ในย่อหน้าเดียว
ส่วนที่ 2 คือรายละเอียดของข่าว ซึ่งอาจจะมีมากกว่าหนึ่งย่อหน้าก็ได้


V is for Vampire




V is for Vampire




สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2558 (ภาคบ่าย)




              สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ
                แบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ..2558 (ภาคบ่าย)



สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการเข้าอบรมในภาคบ่ายของวันนี้ก็คือ ยุทธวิธีการสอนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะมีสิ่งรอบตัว เกม นิทาน เพลง การวดภาพ บทบาทสมมติและการท่องคำคล้องจอง โดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ได้ให้แนวคิดที่ทัยสมัยและน่าสนใจมาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยท่านเล่าให้ฟังว่า ท่าให้นักเรียนลงพื้นที่จริงตามสถานที่ต่างๆ แล้วหาคำภาษาอังกฤษที่เขียนผิด จากนั้นก็ถ่ายรูปแล้วมาช่วยกันแก้ไขคำนั้นให้ถูกต้อง ซึ่งดิฉันชอบวิธีนี้เช่นกัน เพราะในสมัยนี้ร้านค้า ร้านอาหารหรือสถานที่ต่างๆที่ดิฉันเคยพบเห็นก็มักจะใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ เมื่อผู้อ่านไปผ่านมาเห็นก็จะเข้าใจและจำกันไปแบบผิดๆไปด้วย ดังนั้นเราควรจะแนะนำให้เขาใช้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องนั่นเอง

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2558 (ภาคเช้า)





                 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ
                    แบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ..2558 (ภาคเช้า)




                    สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการเข้าอบรมในวันนี้ก็คือ การจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้แบบกลับด้าน (Flip classroom) ซึงการจัดการเรียนรู้แบบกลับด้านนี้เป็นวิธีการที่ครูผู้สอนแต่เนื้อหาสาระที่สำคัญเท่านั้น และให้ผู้เรียนได้ฝึกการต่อยอดองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะเป็นผู้ชี้แนวทางและให้คำปรึกษา เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติจริงและเกิดการเรียนรู้แบบ active learning นั่นเอง โดยมีจุดกำเนิดของวิธีการเรียนรู้แบบกลับด้าน คือ ครูสอนวิชาเคมีของโรงเรียน Woodland Park High school ได้คิดค้นขึ้น สาเหตุเพราะว่านักเรียนของเขาได้ขาดเรียนบ่อย และเขาก็ต้องการที่จะช่วยเหลือนักเรียนที่ปัญหาที่เรียนไม่ทันเพื่อนหรือเรียนรู้ช้า เขาจึงใช้ ICT เข้ามาช่วย และทำวิดีโออย่างง่ายขึ้น เพื่อให้นักเรียนที่ขาดเรียนเข้าไปเรียนได้ตลอดเวลา และนักเรียนที่เรียนรู้ช้าก็สามารถเข้าไปทบทวนบทเรียนได้อีก โดยครูผู้สอนไม่ต้องสอนซ้ำๆ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2558 (ภาคบ่าย)




            สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ
              แบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ..2558 (ภาคบ่าย)


                 สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการเข้าอบรมในภาคบ่ายก็คือ การออกเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสัทศาสตร์ (Phonetics and Phonology) เพราะว่าครูผู้สอนจะต้องช่วยเหลือผู้เรียนในการแก้ไขการออกเสียงให้ถูกต้อง โดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ท่านได้สอนเรื่องอวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเสียงของอักษรภาษาอังกฤษต่างๆ โดยแต่ละเสียงจะใช้อวัยวะที่แตกต่างกันออกไป โดยจะมีอวัยวะหลักๆก็คือ ลิ้น ริมฝีปาก เหงือก เพดานอ่อน เพดานแข็งและกล่องเสียง โดยขณะที่เรากำลังเปล่งเสียง เราจะใช้มือจับที่ลำคอเบาๆ เพื่อตรวจสอบว่าเสียงนั้นก้องหรือไม่ ถ้าลำคอเราสั่นแสดงว่าเสียงอักษรตัวนั้นเป็นเสียงก้อง (Voice) แต่ถ้าลำคอไม่สั่น เสียงนั้นก็จะเป็นเสียงไม่ก้อง (Voiceless) รวมทั้งนี้ท่านยังสอนการออกเสียงตาม IPA (International Phonetics Alphabet) โดยจะมีสถานที่เกิดเสียงและลักษณะของการออกเสียง เช่น [p] ก็จะเป็นเสียงไม่ก้อง ซึ่งจะใช้ริมฝีปากเป็นแหล่งกำเนิดเสียง ส่วน [b] จะเป็นเสียงก้อง ซึ่งจะมีแหล่งกำเนิดที่ริมฝีปากเช่นเดียวกับเสียง [p]

                 และนอกจากนี้ ท่านได้สอนเรื่องการออกเสียงสระภาษาอังกฤษทั้ง 5 ตัว คือ a,e,i,o,u ว่าออกเสียงอย่างไรจึงจะถูกต้องตาม IPA นั่นเอง ซึ่งสระเหล่านี้ก็สามารถแบ่งประเภทออกเป็น 3 ประเภทอีก ซึ่งจะคล้ายๆกับสระภาษาไทยของเราที่แบ่งสระตามเสียงสั้นและเสียงยาว แต่ของภาษาอังกฤษจะเพิ่มสระประสมสองเสียงเข้ามาด้วย โดยจะเป็นการผสมของสระสองตัวเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นสระใหม่ขึ้นมา เช่น a + u = [au] จะออกเสียงว่า อาว เช่นคำว่า town , flower เป็นต้น
นอกจากนี้เรื่องของ สัทศาสตร์ (Phonetics and Phonology) ที่ท่านสอนอีกคือ การเน้นเสียง (Stress) ที่จะมี 2 ประเภท ก็คือ การเน้นเสียงระดับคำและการเน้นเสียงในระดับประโยค เช่น  society information volunteer photographic

                 จากความรู้ที่ดิฉันได้รับจากการอบรมในภาคบ่ายวันนี้ ทำให้ดิฉันได้รับทั้งความสุกและความรู้ที่น่าสนใจที่จะเป็นประโยชน์ในการนำไปฝึกออกเสียงให้ถูกต้องยิ่งขึ้น รวมทั้งการเน้นเสียงคำและดารเน้นเสียงในระดับประโยค ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ซึ่งดิฉันคิดว่าหากเราพูดไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการเน้นเสียง ไม่มีท่วงทำนองสูงต่ำ เราก็เหมือนฟังพระสวดที่คนฟังจะรู้สุกเบื่อ ง่วงนอนไม่อยากจะพูดคุยกับเรา แต่ถ้าเรารู้จักการเน้นเสียง การใช้จังหวะสูงต่ำเข้าไปช่วยในการูดคุย ก็จะทำให้การสื่อสารนั้นดูมีชีวิตชีวา น่าสนใจและเราก็จะประสบความสำเร็จในการพูดคุยอีกด้วย



สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2558 (ภาคเช้า)




          สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ
             แบบบูรณาการทักษะ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ..2558 (ภาคเช้า)


                สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการเข้าอบรมในวันนี้คือ ปัญหาของนักเรียนไทยที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารได้ โดย ดร.สุจินต์ หนูแก้ว ท่านได้พูดถึงปัญหาที่ผู้เรียนขาดการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) กล่าวคือ ยุคสมัยนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศกำลังเฟื่องฟู เพราะทุกคนต่างใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารหรือการทำธุรกิจ ซึ่งทำให้โลกของเราดูแคบลง ซึ่งผู้คนในสมัยนี้ใช้สมาร์ทโฟนในการเสพติดและเชื่อข่าวลือกันไปทั่วโดยขาดการคิดวิเคราะห์ การกลั่นกรองข้อเท็จจริง และไม่สามารถหาข้อเท็จจริงก็ด่วนสรุปเชื่อตามข่าวลือนั้นๆ ท่านจึงได้คิดทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการคิดวิเคราะห์ขึ้นมา 

Practice English by The vampire diaries season 1




            Practice English by The vampire diaries season 1



                ดิฉันคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนหรือหนังสือตำราเรียนเท่านั้น แต่เรายังสามารถที่จะศึกษาค้นคว้าและศึกษาเรียนรู้ได้จากทุกสิ่งทุกอย่างจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านหรือภายในห้องเรียน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ในการศึกษาและเรียนรู้คำศัพท์เบื้องต้น จากนั้นเราจึงค่อยพัฒนามาเรียบเรียงคำศัพท์เหล่านั้นให้เป็นประโยคและฝึกพูดหรือใช้ในการติดต่อสื่อสารในสถานการณ์จริง โดยแนวทางที่จะช่วยทำให้เราได้ใช้และอยู่กับภาษาอังกฤษได้ทุกวันหรือตลอดเวลาก็คือ การฝึกภาษาอังกฤษจากสื่อเทคโนโลยีสารสรเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟน ไอโฟน หรือแท็บแล็ต โดยเราจะฝึกทักษะการฟังผ่านเพลงสากลหรือดูหนังผ่านสื่อดังกล่าว โดยเฉพาะการฟังเพลงสากลและการดูหนังฝรั่งจะช่วยเราในการฝึกภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายราคาแพงให้กับกวดวิชาหรือสถาบันสอนภาษาดังๆ  ซึ่งเราสามารถเริ่มทำได้จากที่บ้าน เราจะฝึกตอนไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรที่จะรู้วิธีการจัดสรรเวลาให้ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองด้วย เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนและสุขภาพของเรานั่นเอง

การฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ





                          การฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ





ในชีวิตของมนุษย์เราในแต่ละวันต่างพบเจอผู้คนมากหมาย หลากหลายชนชาติ แต่ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารพูดคุยกันแล้วเกิดความเข้าใจกันได้ เพราะเรามีภาษากลางที่จะใช้สื่อสารเหมือนกัน นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษที่เป็นกุญแจสำคัญในการการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันของเราในขณะนี้ อย่างง่ายๆ หากเราพูดภาษาไทยกับผู้คนในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังจะเปิดในปีหน้าที่กำลังจะถึง ผู้คนเหล่านั้นก็จะไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังจะสื่อความหมายให้เขา เพราะฉะนั้นจึงมีการกำหนดภาษากลาง หรือภาษาแม่ที่ใช้เป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองการปกครอง ด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงด้านการศึกษาอีกด้วย  ซึ่งในขณะที่คุณเชื่อมต่อสิ่งที่คุณได้ยินกับสิ่งที่คุณอ่านและสิ่งที่คุณพูด หรือคุณกำลังกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างด้านของภาษา


Adverb Clause




                            Adverb Clause





                Adverb Clause คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายคำกริยา (Verb) คำคุณศัพท์ (Adjective) และคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ในประโยคหลัก (Main Clause) โดยสามารถวางไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังอนุประโยคหลักได้ แต่ถ้าหากอยู่ด้านหน้าของประโยคหลักก็จะมีเครื่องหมาย comma (,) คั่นอยู่ด้วย
เช่น While she was walking at the park, she cried.


Adjective Clause



                           
                         Adjective Clause


           Clause มีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
Independent Clause = หรือ Simple Sentence (ประโยคอย่างง่าย) ซึ่งก็คือ Clause ที่อยู่โดดๆ ได้ อ่านรู้เรื่อง ซึ่งตัวมันเองก็ถือว่าเป็นประโยคแล้ว มี Subject และ Verb ที่แสดงความหมายโดยสมบูรณ์ เช่น It was raining hard. (ฝนกำลังตกหนัก แค่นี้ก็รู้เรื่องแล้ว)

Dependent Clause = Clause ที่อยู่โดดๆ ไม่ได้ ต้องมี Clause อื่นอยู่ด้วยจึงจะประกอบกันเป็นประโยคที่อ่านรู้เรื่อง เช่น When we were in Bangkok เช่น เมื่อเราอยู่ที่กรุงเทพ เราชอบไปเที่ยวห้างมาก เป็นต้น)


Reading Skill








Reading Skill




เทคนิคการอ่านเร็วที่สำคัญและมีประโยชน์มี 2 แบบ คือ การอ่านแบบสกิมมิ่ง (Skimming) และ การอ่านแบบสแกนนิ่ง (Scanning) ทั้งสองเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถอ่าน เรื่องได้รวดเร็วและเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญทางการอ่านบางคนเรียกว่า ทักษะการ ค้นหา (Searching Skill) ซึ่งเป็นทักษะที่ผู้เรียนควรได้ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญต่อไป


Noun clause






                                                Noun clause 




       Noun clause คือประโยคที่ทำหน้าที่เหมือน คำนาม หรือกลุ่มคำนาม (นามวลี หรือ Noun phrase  )Noun Clause จะมีคำ  'that'  หรือคำ  Wh-Questions (what; where, when, why, how เป็นต้น) นำหน้าประโยค   คำนามหรือนามวลีสามารถเป็นประธานของประโยคและกรรมของกริยาได้

How to learn vocabulary





How to learn vocabulary



ภาษาอังกฤษจะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย การแข่งขันในระบบเศรษฐกิจโลกทำให้มีการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ในการพัฒนามากขึ้นและการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี2015จะทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นประเทศชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน โดยการพัฒนาการศึกษาควรให้ความสนใจกับเนื้อหาของผลการวิจัยของ WEF ที่จะรวบรวมคุณภาพทางการศึกษาของแต่ละประเทศแล้วจัดเป็นลำดับคะแนน ซึ่งหากประเทศไทยยังคงไม่เริ่มต้นการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างจริงจัง คะแนนของการศึกษาไทยอาจถูกเลื่อนลำดับในทุกประเภทการสำรวจ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงในระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศในอนาคต