การศึกษากับคุณธรรม
"การศึกษา"
นับว่ามีความสำคัญมากต่อการพัฒนาบุคลากรตลอดจนไปถึงเป็นพื้นฐานของการพัฒนาส่วนอื่น
ๆ ด้วย เพราะไม่ว่าจะทำการพัฒนาส่วนใดต้องเริ่มมาจากการพัฒนาคนเสียก่อน
ดังนั้นการพัฒนาคนสามารถทำได้หลาย ๆ รูปแบบ
อย่างที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาคนคือการให้การศึกษา
ดังนั้นการพัฒนาประเทศต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาคนโดยต้องคำนึงถึงการศึกษาเป็นสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ก้าวล้ำนำโลกไปมาก
การศึกษาก็ต้องพัฒนาไปให้ทันกับโลก
เพราะตอนนี้ประเทศไทยมักประสบปัญหาพฤติกรรมและค่านิยมทางสังคมที่ผิดของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันมีความรุนแรงจนกลายเป็นวิกฤติทางสังคม
ซึ่งปัญหาอันดับหนึ่งคือ ยาเสพติด รองลงมาคือการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรซึ่ง
เป็นที่มาของการทำแท้ง การทอดทิ้งเด็ก เด็กถูกทำร้าย การติดเชื้อเอดส์
และการขายบริการทางเพศ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอุบัติเหตุจากความมึนเมา คึกคะนอง
ท้าทายกฎระเบียบ ส่วนปัญหาที่กำลังมีแนวโน้มขยายตัวและรุนแรงในวัยรุ่นคือ
การทำร้ายผู้อื่นและทำร้ายตนเอง โดยการคิดฆ่าตัวตาย
ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มาจากความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา
สถาบันศาสนาและชุมชน รวมถึงสื่อโดยเฉพาะโทรทัศน์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ดังนั้นจึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันและรีบแก้ไขปัญหาวัยรุ่น
สำหรับการศึกษาในประเทศไทย
หากดูจากสภาพที่เกิดขึ้นในสังคมหลาย ๆ
ฝ่ายกำลังเข้าใจเป็นไปในแนวทางเดียวกันคือการศึกษาของไทยกำลังมีปัญหา
จะเห็นได้ว่าเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากสังคม ซึ่งมีการทำวิจัยออกมาหลาย ๆ
ครั้งที่สะท้อนถึงความล้มเหลวของการศึกษาในบ้านเรา ปัญหาต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทยเปรียบเสมือนสายพานความป่วยไข้ทางสังคมที่สะท้อนถึงปรากฏการณ์ความอ่อนแอของทุกภาคส่วน
ทั้งสถาบันครอบครัวอ่อนแอ พื้นที่อบายมุขขาดการควบคุม
อันเป็นปฐมเหตุของปัญหาพฤติกรรมเด็กและเยาวชน ไม่ว่าเป็นปัญหาติดห้าง
เที่ยวกลางคืน กินเหล้า สูบบุหรี่ และมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
อันจะนำไปสู่ผลกระทบกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามมาอย่างมากมาย
การศึกษา เป็นสิ่งสําคัญของชาติและสังคม
ชาติไหน ประเทศไหน มีการจัดการศึกษาที่ดี ประชาชน ได้รับการศึกษาย่อมทําให้ประเทศมีความเจริญรุ่งเรืองตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี การจัดการศึกษาที่ดี มิใช่ทําให้คนมีความรู้
ความสามารถทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังต้องปลูกฝังให้คนในประเทศมีคุณธรรมควบคู่ไป
ด้วย จึงจะทําให้ประเทศและสังคมมีความสุขอย่างแท้จริง ใน “แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ.
2552-2559” (สํานักงานเลขาธิการสภา การศึกษา, 2553)
มีวัตถุประสงค์ให้มีการพัฒนาคนอย่างรอบด้านและสมดุลเพื่อเป็นฐานหลักของการ
พัฒนา สร้างสังคมไทยให้เป็น
ภูมิปัญญาและการเรียนรู้ รวมทั้งพัฒนาสภาพแวดล้อมของ
สังคมเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาคน สร้างสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญา และการเรียนรู้
มีการเน้นประเด็น “คุณธรรม” ในหลายข้อ เช่น “ปลูกฝังและเสริมสร้างให้ผู้เรียนมี
ศีลธรรม จริยธรรม ค่านิยม
มีจิตสํานึกและมีความภูมิใจในความเป็นคนไทย มีระเบียบวินัย มี จิตสาธารณะ คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรังเกียจการทุจริต
ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง” และ
“ส่งเสริมการจัดการศึกษา อบรม และเรียนรู้องสถาบันศาสนา และสถาบันทางสังคม ทั้งการศึกษาใน
ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย”
คุณธรรม หมายถึง คุณสมบัติภายในใจใดๆ
ก็ตามที่เป็นคุณสมบัติไม่เป็นโทษ เช่น
การเป็นผู้มีจิตใจเอื้อเฟื้อ มีวินัย มีความรับผิดชอบ สุจริตเที่ยงธรรม
เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีความตั้งใจที่จะทำประโยชน์แก่สังคม ส่วน จริยธรรม
หมายถึง สิ่งควรประพฤติอัน ได้แก่ พฤติกรรมเป็นการกระทำทางกาย วาจา ใจ
อันดีงามที่ควรปฏิบัติ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คุณธรรม และ จริยธรรม หมายถึง
คุณงามความดีของบุคคลที่กระทำไป ด้วยความสำนึกในจิตใจ
โดยได้ยึดถือจนเป็นความเคยชิน อันเป็นคุณลักษณะหรือพฤติกรรมที่ดีงาม
เป็นที่ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องของตนเอง ผู้อื่นและสังคม ปัจจุบัน
ทุกสถาบันการศึกษาได้ให้ความสำคัญกับการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมเข้าใน
กิจกรรมการเรียนการสอนในทุกรายวิชา
เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของผู้เรียนควบคู่ไปกับคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าและความสำเร็จให้แก่ชีวิตของผู้เรียน
อีกทั้งยังเป็นการ สร้างคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ให้แก่สังคมไทยด้วย โดยอาจารย์
และนักศึกษาจะต้องเห็นความสำคัญของคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้ความ
เข้าใจด้วยจิตใจที่ยอมรับในคุณงามความดีอย่างแท้จริง
ยินดีปฏิบัติด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข ไม่ได้ถูก บังคับหรือมีเงื่อนไขการสอดแทรกจะต้องค่อยๆ
ท าในลักษณะน้ำซึมบ่อทราย และมีส่วนร่วมรวมพลังเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันด้วยการบูรณา
การคุณธรรมเข้ากับศาสตร์ของวิชาที่สอน
ในสังคมไทยสมัยโบราณ มีการกําหนดคุณธรรมและจริยธรรมของนักศึกษาไว้หลากหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อฟังครูบาอาจารย์ การอ่อนน้อมถ่อมตัว การเทิดชูและเคารพอาจารย์
ดังนั้นครูสมัยก่อนจะดุและนักเรียนจะเชื่อฟังมาก นักเรียนจะกลัว ไม่กล้าถาม
ไม่กล้าตอบ ทำให้ปลูกฝังมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นระบบที่ฟังจากครูอย่างเดียว
ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ไม่เป็น
การศึกษาไทยเป็นระบบป้อนเข้าอย่างเดียว ไม่มีการแลกเปลี่ยนกัน หรือมีก็น้อยมาก
มีการสนใจใฝ่หาความรู้ด้วยตนเองน้อย ทำให้เด็กคิดไม่เป็น วิเคราะห์ไม่เป็น
ยิ่งมีการเน้นย้ำด้วยการสอบโดยอาศัยความจำเป็นหลักนักเรียนก็จะท่องจำอย่างเดียว
ที่ซ้ำร้ายกว่านั้น สังคมปลูกฝังให้นักเรียนต้องเป็นคนเก่ง ซึ่งนักเรียน
ก็จะแข่งกันโดยไม่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ
เมื่อผิดหวังรุนแรงก็ไม่สามารถแก่ปัญหาตนเองได้ เหล่านี้เป็นต้น
แต่ก็เห็นว่าในปัจจุบันจะได้พัฒนาและเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนแล้ว เด็กกล้าคิด
กล้าทำมากขึ้น ก็นับว่าเป็นจุดที่ดีที่จะพัฒนาให้ทัดเทียมประเทศอื่นต่อไป
ดังนั้นสถาบันการศึกษาจึงควรเร่งรัดนำไปปลูกฝังคุณธรรมพัฒนา
ให้กับเยาวชนของชาติ เพื่อให้เป็นคนดี มีความรู้ และอยู่ดีมีสุข
ก้าวสู่สังคมคุณธรรมนำความรู้ โดยขอความร่วมมือจาก สถาบันครอบครัว ชุมชน
สถาบันศาสนา และสถาบันการศึกษาอื่นๆ เพื่อให้การดำเนินการประสบความสำเร็จสามารถนำไปสู่การปฏิบัติยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้นทุกฝ่ายจะต้องมีความตั้งใจ
และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ผู้ใหญ่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน
พ่อแม่ต้องดูแลเอาใจใส่ลูกอย่างใกล้ชิด ครูต้องมีจิตสำนึกและวิญญาณของความเป็นครูเพิ่มขึ้น
ภาครัฐและเอกชน องค์การศาสนา และสื่อมวลชน ต้องตื่นตัว กระตือรือร้น
และผนึกกำลังเพื่อการพัฒนาไปสู่ความก้าวหน้าอย่างมั่นคงอย่างน้อยที่สุดทุกคนควรทำงานให้เต็มกำลัง
เต็มความสามารถ และเต็มเวลาด้วย หากเกิดขึ้นกับครอบครัว
ชุมชน หน่วยงาน สถาบัน ตลอดจนประเทศใดแล้ว
โดยเฉพาะประเทศไทยนั้นก็จะพ้นวิกฤติทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
พัฒนาชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า เป็นสังคมคุณธรรมนำความรู้ ชีวิตของคนในชาติ
คงจะดีกว่าเดิม สังคมไทยจะสงบสุขกว่านี้ ประเทศไทยก็คงเป็นไทยอยู่ตลอดไป
มีการพัฒนาอย่างรุดหน้าไม่ด้อยกว่าประเทศใดในโลกนี้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งหลักหัวใจนักปราชญ์ โดยอาจารย์
และนักศึกษาจะต้องเห็นความสำคัญของคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้ความ
เข้าใจด้วยจิตใจที่ยอมรับในคุณงามความดีอย่างแท้จริง
ยินดีปฏิบัติด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข ไม่ได้ถูก บังคับหรือมีเงื่อนไขการสอดแทรกจะต้องค่อยๆ
ทำในลักษณะน้ำซึมบ่อทราย
และมีส่วนร่วมรวมพลังเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันด้วยการบูรณาการคุณธรรมเข้ากับศาสตร์ของวิชาที่สอนและที่สำคัญครูผู้สอนจะต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
เพื่อจะให้ศิษย์สามารถทำแบบอย่างในทางที่ถูกต้องเหมาะสมและถูกกาลเทศะ
ซึ่งคุณธรรมเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันของผู้เรียน เพราะคุณธรรมจะติดตัวเราไปตลอดจนกลายเป็นนิสัย
หากเราเป็นคนดีมีคุณธรรม เราก็จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
แต่ถ้าหากเรากลายเป็นบุคคลที่ไร้คุณธรรม เราก็จะกลายคนที่น่ารังเกียจของสังคม
และจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ได้
ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราไม่มีความสุขในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การพัฒนาบุคคลโดยใช้คุณธรรมนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยพัฒนาคนในชาติให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยกาย
วาจา ใจ การศึกษาก็มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
การแข่งขันทางเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัฒน์ก็ขึ้นอยู่กับการศึกษา
การพัฒนาการเมืองก็ขึ้นอยู่กับการศึกษา สังคมกำลังเสื่อมโทรม
ก็ต้องหันไปพึ่งการศึกษา การพัฒนาการศึกษาจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาประเทศ
เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสําคัญของชาติและสังคม ชาติไหน ประเทศไหน
มีการจัดการศึกษาที่ดี ประชาชน ได้รับการศึกษาย่อมทําให้ประเทศมีความเจริญรุ่งเรืองตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี การจัดการศึกษาที่ดี มิใช่ทํา ให้คนมีความรู้ความสามารถทางวิชาการเท่านั้น
แต่ยังต้องปลูกฝังให้คนในประเทศมีคุณธรรมควบคู่ไป ด้วย จึงจะทําให้ประเทศและสังคมมีความสุขอย่างแท้จริง .
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น