Noun clause
Noun clause คือประโยคที่ทำหน้าที่เหมือน คำนาม
หรือกลุ่มคำนาม (นามวลี หรือ Noun
phrase )Noun Clause จะมีคำ 'that' หรือคำ Wh-Questions (what; where, when, why, how เป็นต้น) นำหน้าประโยค
คำนามหรือนามวลีสามารถเป็นประธานของประโยคและกรรมของกริยาได้
หน้าที่ของ
Noun Clauses
noun clause ทำหน้าที่ต่างๆดังต่อไปนี้
ในตัวอย่างข้างล่างประโยค a มีคำนามหรือกลุ่มคำนาม (noun phrase)
และประโยค b มี
noun
clause ในตำแหน่งเดียวกันกับประโยค a
1. Subject
a. Her word is correct.
b. What she said is
correct.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
What she said (สิ่งที่เธอพูด) ใน ประโยค b เป็นประโยคย่อย
คือมีภาคประธาน he และภาคแสดง said โดยซ้อนอยู่ในประโยคอีกประโยคหนึ่งและทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคนั้น
เทียบได้กับกลุ่มคำนาม Her
word(คำพูดของเธอ)
ซึ่งเป็นประธานของประโยค a
2. Direct Object
a. We doubt his way of doing
it.
b. We doubt how he did it.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
how he did it เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค b โดยทำหน้าที่เป็นกรรมตรง เทียบได้กับกลุ่มคำนาม his way of doing it ในประโยค a
3. Indirect Object
a. He told the story to
everyone.
b. He told the story to
whomever he met
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
whomever he met
เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค
b โดยทำหน้าที่เป็นกรรมรอง
เทียบได้กับกลุ่มคำนาม everyone ในประโยค a
4. Object of a Preposition
a. His relatives are curious
about his living place.
b. His relatives are curious
about where he lives.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
where he lives เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค b โดยทำหน้าที่เป็นกรรมตามหลังบุพบท เทียบได้กับกลุ่มคำนาม his living place ในประโยค a
5. Subject Complement
a. The question is about the
timing of parliament dissolution.
b. The question is (about)
when parliament will be dissolved.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
when parliament
will be dissolved เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค
b โดยทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมประธาน
ที่ตามหลัง คำกริยา BE เทียบได้กับกลุ่มคำนาม the timing of parliament dissolution ในประโยค a
6. Object Complement
a. You may name him Sam.
b. You may name him whatever
you like.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
whatever you
like เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค
b โดยทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมกรรม เทียบได้กับ Sam ในประโยค
a
7. Appositive
a. Jack, the hero in the
story, needs to prove his innocence.
b. The fact that he was not
at the murder scene needs to be proved.
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า
that he was not
at the murder scene เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยค b โดยทำหน้าที่เป็น appositiveเทียบได้กับกลุ่มคำนาม the hero in the story ในประโยค a
ประเภทของNoun
Clauses
1. Subject NC มีตำแหน่งอยู่หน้าประโยคหรือหน้ากริยาทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค
2. Direct Object NC มีตำแหน่งอยู่หลังกริยา ทำหน้าที่เป็นกรรม
3. Object of Preposition NC มีตำแหน่งอยู่หลังบุรพบท
ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุรพบท
4. Subject as Complement NC มีตำแหน่งอยู่หลัง to be ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายประธาน
1. Subject Noun
Clauses
โดยปกติแล้ว
คำนามหรืออนุประโยคที่ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคมักจะปรากฏอยู่หน้ากริยาหรือหน้าประโยค
ตัวอย่างเช่น
What causes so
many difficulties in the IELTS test is the writing section.
จากประโยคข้างต้น
What causes so
many difficulties in the IELTS test เป็น noun clause อยู่หน้าประโยค
ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
2. Direct
Object Noun Clauses
I suggest you
that you should go to a movie with me tonight.
ผมแนะนำว่าคุณควรจะไปดูหนังกับผมคืนนี้
จากประโยคข้างต้น
that we should
go to a movie tonight อยู่หลังกริยา
suggest เป็นกรรมตรง (Direct object) ของ suggest ตามหลังกรรมรอง
(Indirect
object)
3. Object of
the Preposition Noun Clauses
Emily is always
proud of where she was born.
จากประโยคข้างต้น
where she was
born เป็นคำนาม
มีตำแหน่งอยู่หลังบุรพบท (Preposition)
of ทำหน้าที่เป็นกรรมของ
of ค่ะ
4. Subject as
Complement Noun Clauses
The stability
of life is what Lewis wants the most in his life.
จากประโยคข้างต้น
what Lewis wants
the most in his life มีตำแหน่งอยู่หลังกริยาช่วย
(V.to be) is ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายหรือเป็นส่วนสมบูรณ์ของประธาน
the stability
of life เพื่อบ่งชี้หรือขยายความ
the stability
of life
Noun clauses เมื่ออยู่ในตำแหน่งของประธานจะเรียกว่า
“Subject noun
clauses” แต่เมื่ออยู่ในตำแหน่งของกรรม
จะเรียกว่า “Object noun
clauses” Object Noun Clauses จะต้องอยู่คู่กับ Main
Clause ของประโยคเสมอ
โดยประโยคจะเริ่มด้วย Main
Clause แล้วตามด้วย Object Noun clause โดยไม่ต้องมีเครื่องหมาย Comma คั่น Object noun
clauses มี 3 ประเภท ได้แก่
1. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “that”
2. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย “Wh-Words” (หรือ
Question Words)
3. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “if” หรือ “whether”
That
that นำหน้า noun clause ที่เป็นประโยคทั่วไปไม่ว่าจะเป็นประโยคบอกเล่า (affirmative statement) หรือ ประโยคปฏิเสธ
( negative statement)
ตัวอย่างเช่น
Affirmative statement
: That he will come is certain. ( การที่ เขาจะมา เป็นสิ่งแน่นอน)
Negative
statement: Jane replied that her boss
would not be in tomorrow .
( เจนตอบ ว่า
เจ้านายของเธอจะไม่อยู่พรุ่งนี้ )
คำว่า that มีความหมายว่า “ การที่ ”
ในกรณีที่ noun
clause เป็นประธานของคำกริยาใน main clause และ that มีความหมายว่า
“ ว่า ” ในกรณีที่ noun clause เป็นกรรม ดังในตัวอย่างข้างต้น
อนึ่ง
noun
clause ที่นำหน้าด้วย that มีโครงสร้างของประโยคครบถ้วน การนำ that ไปวาง ข้างหน้า noun
clause เป็นเพียงการเชื่อม noun clause
กับ main clause
1) หน้าที่ของ noun
clause ที่นำหน้าด้วย that
that สามารถใช้นำหน้า noun clause ที่ทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม
ส่วนเสริมประธาน กรรมตามหลัง
บุพบท
และ appositive ตัวอย่างเช่น
Subject: That the majority of people in developing
countries live in dire poverty is true.
Object: The government believes that the national
economy will recover soon.
Subject
complement: His ambition was that he
wanted to become prime minister.
Object of a
preposition: The twins are similar in
that they love folk songs .
Appositive: The rumor that there is a serpent in the Mae
Kong River may be true .
ข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้ that
appositive noun clause จะนำหน้าด้วย that
เท่านั้นและไม่มีการละ
that
The news that she won the
beauty contest was published in all of the daily
newspapers.
noun clause ที่นำหน้าด้วย that
ที่ใช้ตามหลังคำบุพบทมีเป็นจำนวนน้อย
โดยที่คำบุพบทที่จะตามด้วย
“that”
clause มักตามหลังคำคุณศัพท์หรือคำกริยาที่แสดง
ความเหมือนกันหรือต่างกัน
เช่น similar, alike, different, differ
John and his brother
are alike in that they enjoy folk music .
The two girls
differed in that one was quiet while the other was talkative .
noun clause ที่นำหน้าด้วย that ไม่สามารถใช้เป็นกรรมรองหรือส่วนเสริมกรรมได้
that ที่นำหน้า noun clause ที่ทำหน้าที่ประธานของประโยค
สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้าง
โดยใช้ impersonal pronoun “ it” นำหน้าประโยค แล้วนำ noun clause
ไปไว้ท้ายประโยคได้
That he showed up
at the party was a great surprise.
It was a great
surprise that he showed up at the party
เราใช้
Noun clauses ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า that ในกรณีต่อไปนี้
1. ใช้ตามหลัง verbs
บางตัวที่แสดงความรู้สึก
ความคิด หรือ ความคิดเห็น เช่น agree,
feel, know, remember, believe, forget, realize, think, doubt, hope, recognize,
understand เช่น
Sompong knows
all along that his mum loves him so much.
สมปองรู้มาโดยตลอดว่าแม่รักเขามากๆ
2. ถ้าเป็นภาษาพูด มักจะละคำว่า that ซึ่งเป็นคำขึ้นต้น
clause เช่น
I think that
it’s red, not green. (ภาษาทางการ)
I think it’s
red, not green. (ภาษาพูด)
3. ส่วนใหญ่กริยา (verb)
ที่ปรากฏอยู่ใน main clause มักจะเป็น Present Simple Tense ธรรมดาส่วนกริยา (Verb)
ใน noun clause จะเป็น tense อะไรก็ได้
เช่น
I believe it’s
raining. (now)
I believe it’ll
rain. (very soon)
I believe it
rained. (a moment ago)
4. ในการสนทนา ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า that บ่อยเกินไป หรือไม่ต้องการพูด noun clause ซ้ำ สามารถตอบโดยใช้คำว่า so หรือ
not หลัง main clauses ได้ เช่น
Sarut: Is Sangrawee
here today?
Patraporn: I
think so.
(คำพูดเต็มๆก็คือ I think that Sangrawee is here today.)
Denlar: Has the
rain stopped?
Saksit: I don’t
believe so.
(คำพูดเต็มๆก็คือ I don’t believe that the rain has stopped.)
Koob: Are we
ready to leave?
Tuptim: I’m
afraid not.
(คำพูดเต็มๆก็คือ I’m afraid that we are not ready to leave.)
2. การใช้ Noun
Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh -Questions
Wh-Questions ใช้นำหน้าข้อความที่เป็นลักษณะการถามข้อมูล เช่น
I doubt why you want statistical figures .
หน้าที่ของ noun clause ที่นำหน้าด้วย Wh-Questions
noun clause ที่นำหน้าด้วย
Wh-Questions อยู่ในตำแหน่งของคำนามในประโยคได้ทุกตำแหน่ง
ยกเว้น appositive โดย noun clause ที่นำหน้าด้วย Wh-Questions มีหน้าที่ต่างๆดังนี้
Subject: What he did was a serious mistake.
Object: She told me how I could raise more money for
charity.
Indirect object: The man enjoyed explaining his theory to
whoever was interested in it.
Object of a
preposition: The question of when the
election will be held will be answered by the Election Committee tomorrow.
Subject complement: You are what you eat .
Object complement: People call him whatever they like .
Wh-Questions ที่ใช้นำหน้า noun clause จะมีหน้าที่บางประการใน noun clause ดังนี้
who, whoever, whom, whomever ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรมใน noun clause
Whoever wins must treat us
to lunch.
I want to know who he has
chosen to marry .
whose คำนามที่ตามหลัง whose ทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม กรรมตามหลังบุพบท
และส่วนเสริมประธาน ใน noun clause
I asked whose money was
stolen.
Tell me whose book you are
reading.
John doubted in whose house
Jane lives.
I want to know whose
book this is.
what, whatever ทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม
และส่วนเสริมประธานใน noun
clause
I'm afraid of what will
happen after that.
What I did was acceptable.
I want to know what her name is
.
You should give him whatever
he likes .
which, whichever มักมีคำนามตามหลัง โดยทำหน้าที่เป็นประธานและกรรมใน noun clause
I don't know which brand is
worth buying.
It's half price for
whichever book you buy.
You can choose
whichever you like.
where, when, why, how ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ ใน noun clause
:: where, wherever บอกสถานที่
Where he will stay has yet
to be decided.
You should ask him where he
wants to stay .
Wherever you go is the right
place for me.
:: when, whenever บอกเวลา
You must find out when he is due to arrive at
the airport .
We are interested in when
the conflict will be resolved.
I don't care whenever he
does that .
:: why บอกสาเหตุหรือเหตุผล
Why he went to China was not known.
Nopadol told the teacher why
he could not finish his assignment .
:: how บอกกิริยาอาการ
Describe how you felt at
that time .
How he was involved in
the scandal needs to be investigated.
การใช้
Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย
Wh-Questions (ได้แก่คำว่า
what where when
why how) มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Questions มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Indirect wh-questions และแม้ว่า noun clause เหล่านี้จะขึ้นต้นด้วยคำแสดงคำถาม แต่ลำดับคำ (word order) ในอนุประโยคนี้ จะเป็นลำดับคำของประโยคบอกเล่า
ไม่ใช่ลำดับคำของประโยคคำถาม
เช่น I know why she comes home very late.
(ไม่ใช่ why does she come home very late)
I don’t know
when she will arrive.
(ไม่ใช่ when will she arrive)
2. การใช้เครื่องหมายวรรคตอนของประโยคจะเป็นไปตามลักษณะของ main clause กล่าวคือ ถ้า main clause เป็นคำถามจะใช้เครื่องหมาย question mark ปิดประโยค ถ้า main
clause เป็นบอกเล่า
จะใช้เครื่องหมาย full stop ปิดประโยค
เช่น Could you tell me where the elevators are?
(Main clause เป็นคำถาม)
I’m wondering
where the elevators are.
(Main clause เป็นบอกเล่า)
3. ใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Questions เพื่อแสดงให้คู่สนทนาทราบว่า เราไม่รู้
หรือเราไม่แน่ใจ
เช่น I don’t know how much it costs.
I would like to
know when our next meeting will be.
I’m not sure
which house is his.
4. ใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Questions เพื่อถามหาข้อมูลอย่างสุภาพ
เช่น Could you tell me who are injured in the accident?
Can you tell me
what time the show starts?
3. การใช้ Noun
Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย If หรือ Whether
การใช้
Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย if หรือ whether มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย if หรือ
whether คือ indirect yes/no questions นั่นเอง
เช่น Direct Question: Did they pass the exam?
Indirect
Question: I don’t know if they passed the exam.
2. ลำดับคำในประโยค (word
order) และเครื่องหมายจบประโยค
ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ Noun
Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย
Wh-Questions
3. จะขึ้นต้น Noun
Clauses ด้วยคำว่า if หรือ whether ก็ได้ แต่มักใช้ whether ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นทางการ
เช่น Sir, I would like to know whether you prefer coffee or tea.
Tell me if you
want to go with us or not.
4. ใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย if หรือ whether เมื่อ main clause แสดงการใช้ความคิด หรือความคิดคำนึง
เช่น I can’t remember if I had already paid him.
I wonder
whether he will arrive in time.
5. ใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย if หรือ whether เมื่อต้องการถามคำถามอย่างสุภาพ
เช่น Do you know if the principal is in his office.
Can you tell me
whether the tickets include drinks?
การลดรูป noun clause
noun clause สามารถลดรูปเป็นกลุ่มคำต่าง ๆ ได้ดังนี้
noun clause ที่นำหน้าด้วย that ลดรูปเป็น noun
phrase โดยมีวิธีการลดรูปคือ
1)
ให้เปลี่ยนคำกริยาให้เป็นคำนามและคำกริยาวิเศษณ์ให้เป็นคำคุณศัพท์ ถ้าประธานเป็นชื่อเฉพาะให้ใช้ ’s
That Tom
behaved well made his parents happy.
Tom’s good
behavior made his parents happy.
แต่ถ้าเป็นคำสรรพนามให้ใช้คำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของ (possessive adjective) และตัด that
ออก
They know that
he desires to marry her soon.
They know his
desire to marry her soon.
2) ในกรณีที่ใน noun clause มีโครงสร้าง เป็น S + linking verb + ADJ ให้เปลี่ยนคำคุณศัพท์
เป็นคำนามและใช้คำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของซึ่งมาจากประธานและกริยาเชื่อมในประโยคเดิมนำหน้า
That he is
insincere is well known.
His insincerity
is well known.
3)
ในกรณีที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจงว่าประธานเป็นใครซึ่งมี one เป็นประธานของคำกริยาใน noun clause สามารถตัดประธานออกได้
That one is
ignorant of school regulations is not an excuse to violate them. Ignorance of school regulations is not an excuse to violate them.
4) ในกรณีที่ noun clause ตามหลังคำคุณศัพท์ เมื่อลดรูปเป็น noun phrase ต้องมีคำบุพบทหลังคำคุณศัพท์
ซึ่งจะใช้คำบุพบทคำใดขึ้นอยู่กับคำคุณศัพท์นั้น
I’m sure that I will succeed in
climbing the mountain.
I’m sure of my
success in climbing the mountain.
http://www.stou.ac.th/schools/sla/b.a.english/D4LP/14212/Module10/content/content03.html
10.3.2 การลดรูป noun clause ที่นำหน้าด้วย that
เป็น gerund
noun clause ที่นำหน้าด้วย that ลดรูปเป็น
gerund phrase ได้
โดยมีวิธีการลดรูปดังนี้
1) หากประธานใน main clause และใน object noun clause เป็นตัวเดียวกัน ให้นำคำกริยาใน noun clause มาเปลี่ยนเป็น gerund
ประโยคที่ใช้
noun clause วิธีการลดรูป noun
clause เป็น gerund
I forgot that I
had given her permission.
I forgot that I
had given her permission.
I forgot having
given her permission.
Kenny denied
that he cheated on the examination.
Kenny denied
that he cheated on the examination.
Kenny denied
cheating on the examination.
หมายเหตุ หากประธานใน main clause และใน object noun
clause ต่างกัน
มักจะไม่ลดรูป noun
clause เพราะความหมายอาจแตกต่างไปจากเดิม
The chairperson accepted that the
committee performed poorly.
ประธานคณะกรรมการยอมรับว่าคณะกรรมการทำงานไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
(เน้นไปที่คณะกรรมการไม่ดี)
The chairperson accepted the
committee’s poor performance.
ประธานคณะกรรมการยอมรับการไม่มีประสิทธิภาพของคณะกรรมการ
(เน้นไปที่การทำงานไม่ดี)
2) ในกรณีของ subject noun clause ให้นำคำกริยามาเปลี่ยนเป็น gerund และใช้ ’s ในกรณีที่ประธานเป็นชื่อเฉพาะหรือใช้คำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของแทนประธานที่เป็นคำสรรพนาม
ประโยคที่ใช้
noun clause วิธีการลดรูป noun
clause เป็น gerund
That Tom came
late made him unable to finish the examination on time.
That Tom came late made him unable to finish
the examination on time.
Tom’s coming
late made him unable to finish the examination on time.
That he came
late resulted in him being unable to finish the examination on time. That he came late resulted in him being
unable to finish the examination on time.
His coming late
resulted in him being unable to finish the examination on time.
3) ในกรณีที่เป็น subject noun clause ซึ่งมีประธานเป็นบุคคลทั่วไปหรือ we, they, you และ one ให้เปลี่ยนคำกริยาเป็น gerund ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของนำหน้า
ประโยคที่ใช้
noun clause วิธีการลดรูป noun
clause เป็น gerund
That we sign
the contract is vital to our company’s survival. That we sign the contract is vital to our company’s survival.
Signing the
contract is vital to our company’s survival.
10.3.3 การลดรูป noun clause เป็น infinitive
1) noun clause นำหน้าด้วย that
ที่ทำหน้าที่กรรมของคำกริยาใน
main clause สามารถลดรูปเป็น infinitive ได้
ประโยคที่ใช้
noun clause วิธีการลดรูป noun
clause เป็น infinitive
He claimed that
he had lived on this land for 20 years. He claimed that he had lived on this land for 20 years.
He claimed to
have lived on this land for 20 years.
It’s time that
we went home. It’s time that we went
home.
It’s time for
us to go home.
2) noun clause ที่นำหน้าด้วย wh-word
หรือ whether ลดรูปเป็น infinitive
phrase ได้
ในกรณีที่ noun clause มีประธานเป็นบุคคลทั่วไปหรือ you, we และ one และมี modal แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในการลดรูปยังใช้ wh-word ที่เป็นคำนำหน้าและเปลี่ยนคำกริยาให้เป็น infinitive
ประโยคที่ใช้
noun clause วิธีการลดรูป noun
clause เป็น infinitive
She asked the
referee who should be declared the winner. She
asked the referee who should be declared the winner.
She asked the
referee who was to be declared the winner.
Tell me how you
can fix the oven. Tell me how you can
fix the oven.
Tell me how to
fix the oven.
What we should
do depends on the situation. What we
should do depends on the situation.
What to do
depends on the situation.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น